ล้างความคิดสร้างชีวิตใหม่
จาริกธรรมอเมริกา ตอนที่ ๑๔
โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
ตอนเช้าหนาวๆ ตื่นขึ้นมาทำกิจส่วนตัวเสร็จแล้วมานั่งสร้างจังหวะเจริญสติแบบเคลื่อนไหว เอาสติกำหนดรู้กายเคลื่อนไหว เอาใจรับรู้ความคิดที่ผ่านมา “ความคิด” มันผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด เรื่องนี้จบ เรื่องใหม่เกิดขึ้นสลับกันไปเรื่อยๆ
สลับกลับมารู้สึกตัวที่การเคลื่อนไหว ๑๔ จังหวะ
รู้สึกที่มือเคลื่อนไหวบ้าง เผลอตามไปตามความคิดบ้าง รู้สึกตัวกลับมาที่มือรู้สึกว่าไม่มีความคิด หรือความคิดมันหยุด ลดลง จะรู้สึกว่ามือเบาจิตใจจะเบาว่างๆ
ขณะเดียวกันคำสอนของหลวงตามหาสุริยา มหาปัญโญ ตอนที่ไปปฏิบัติกับหลวงตาที่วัดป่า ผู้เขียนได้เดินจงกรมอยู่ในเรือนว่าง องค์หลวงตาเดินมา ท่านถามว่า “บริกรรมบ่”
ตอบหลวงตาว่า “บริกรรมครับ (เดินบริกรรมว่า ขวารู้สึกตัว ซ้ายรู้สึกตัว)”
หลวงตาว่า ”บ่ต้องบริกรรมหยังให้รู้สื่อๆ (รู้สึกตัวเบาๆ โดยธรรมชาติ) บริกรรมมันเป็นบัญญัติ ตัวรู้คือปรมัตถ์ บริกรรมบ่เอา เอาปรมัตถ์อย่างเดียวเด้อ เวลาเดินเร็วๆ เหมือนล้อเกวียนหมุนเร็วๆ ขี้ดินที่ติดล้อก็จะสลัดออกจากล้อเกวียน ความคิดก็เหมือนกันกำหนดรู้สึกตัวมากๆ ความคิดก็จะสลัดออกไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน”
ล้างความคิดที่เราได้กระทำไว้ในอดีต เรียกว่ากรรม ที่สะสมหมักหมมปักหมุดเข็มไว้ที่จิตไว้กี่ชั้นแล้วก็ไม่รู้หรือภพชาติที่เราสะสมมากี่ชาติแล้วนับไม่ถ้วน
การมีความรู้สึกตัว สร้างตัวสติตัวนี้ให้มากขึ้น เพื่อย้อนไปล้างภพชาติหรือความคิดเก่าๆ ออกจากจิตใจให้ใจปล่อยวาง เบาบางลง จิตเบาใจก็เบา สบายใจ แล้วประคองจิตใสบริสุทธิ์นี้ให้มาก คือการอยู่ในปัจจุบันธรรมไปเรื่อยๆ
คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
”ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว”
ขนาดเวลาที่เราฝึกฝนจิตด้วยความตั้งใจทำจริงจะได้จริง มันเป็นสัจธรรมจริง ประดุจดั่งการนิ่งข้าวกินแล้วก็ได้กินจริงๆ นี่คือของจริงเห็นจริง
การฝึกฝนจิตด้วยวิธีการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวยกมือสร้างจังหวะดูกายเคลื่อนไหวจิตรู้ว่าอาการการเคลื่อนไหวของกาย
ตั้งข้อสังเกตว่า เราได้ทำความดีทางกาย กายไม่ได้ไปเบียดเบียนทำร้ายใคร นี่ทำดีทางกาย
สองทำความดีทางวาจา วาจาเราไม่ได้พูดเพ่งโทษว่าด่าใส่ร้ายป้ายสี พูดหาเรื่องใครให้เดือดร้อนใจ สำรวมระวังคำพูด นี่ทำดีทางวาจา
สามทำความดีทางใจ ทำจิตใจให้ผ่องใส หรือ ล้างความคิดร้าย คิดอาฆาต คิดเกลียดแค้น พยาบาทใคร
ถ้าคิดก็ให้รู้เท่าทันความคิด หยุดความคิดนั้น ล้างความคิดนั้นเสีย ล้างกรรมก็คือล้างความคิดเก่าที่ชั่วร้ายและทำให้ชีวิตเศร้าหมอง ไม่สบายใจ และเรื่องที่จิตผูกมัดไว้
ฉะนั้น เราฝึกฝนจิตดูแลจิตรู้สึกตัวดูรู้ ฐานกายการเคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงของกาย เวทนารู้สึกดีใจ เสียใจ เฉยๆ ปกติ จิตคิดถึงอดีต อนาคต ดีชั่ว ธรรมะอารมณ์ที่จิตใจสัมผัสเบาสบายใจปีติยินดีทั้งฝ่ายดีและชั่ว ก็ปล่อยวางทำใจให้เป็นกลางไม่ลำเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ให้ตั้งมั่นอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งสามข้อเบื้องต้น
สรุปคือ ดูกายเคลื่อนไหว จิตใจรับรู้กายเคลื่อนไหว รู้เท่าทันความคิดดีชั่ว ยับยั้งชั่งใจ จิตคิดชั่วหักห้ามใจไม่ให้กายทำความชั่ว ล้างความคิดสร้างชีวิตใหม่ ล้างการกระทำแบบเก่าๆ ล้างความคิดอดีตเน่าๆ
เท่ากับล้างจิตทำใจให้บริสุทธิ์อิสระเป็นไทย ชีวิตใหม่ก็เกิดขึ้น ถ้าเราให้โอกาสแก่ใจและชีวิตตนเอง เพียงแค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว หยุดความคิดชั่ว ทุกอย่างก็จบ
ล้างความคิดสร้างชีวิตใหม่
จาริกธรรมอเมริกา ตอนที่ ๑๔
โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
(จากคอลัมน์ ธรรมลิขิต หน้าธรรมวิจัย นสพ. คมชัดลึก วันอังคารที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒ )