ร่วมสร้าง “มรดกธรรม” เพื่อความพ้นทุกข์ ตามพุทธประสงค์ต่อไปไม่สิ้นสุด
โดย พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร.
การทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาจำเป็นต้องอาศัยความเสียสละของพระวิทยากร โดยท่านได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจอย่างไม่คิดเห็นแก่ประโยชน์สุขส่วนตัว แต่เห็นประโยชน์ของผู้อื่น และความสุขสงบของสังคมเป็นหลัก อันถือเป็นแนวทางที่เราควรช่วยส่งเสริมและสนับสนุนกัน เพื่อให้ความดีเคียงคู่กับความสุขให้มีตลอดปีและตลอดไปไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร การเผยแผ่ธรรมก็จำเป็นอยู่ตราบใดที่ยังมีคนทุกข์และต้องการปลดเปลื้องทุกข์ภายในใจด้วยธรรมะที่พระพุทธองค์ค้นพบ
เพราะเป้าหมายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ
๑. เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวนาน
๒. เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในไทยและทั่วโลก
๓. เพื่อสร้างความสงบสุขและมอบมรดกธรรมให้แก่ชาวโลกเท่าที่จะทำได้
ถ้ามองที่เป้าหมายจะพบว่า เป้าหมายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้นเกิดจากการที่เรามองว่าเป้าหมายของชีวิตนั้นเป็นเพียงแค่ระยะสั้นเช่นเดียวกับที่พระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพแค่เพียงอายุกาลของมนุษย์โลก แต่หากจะนับตามอายุกาลของพระพุทธศาสนานั้นสืบทอดต่อกันมาได้ด้วยอาศัยพระเถรานุเถระผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบ จนเหล่าพระราชามหากษัตริย์และเศรษฐี คฤหบดีได้พบก็เกิดความศรัทธาทั้งในบุคคลและคำสอนจึงเป็นผู้อุปถัมภ์ต่อยอดพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวนานมาจนถึงยุคของเรา
และตอนนี้ ขณะนี้ ในยุคของเราจะเป็นผู้สืบทอดมรดกธรรมเหล่านี้ต่อไปให้ลูกให้หลานที่จะได้พบเจอวิถีชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสงบสุขนี้ตราบเท่าที่จะมีแรงกายและแรงใจทำไปได้ในชีวิต
ดังเช่น การทำกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ ที่ได้เกื้อกูลสังคมมากว่า ๑๐ ปี ตามมติมหาเถรสมาคม มาจนถึงปี พ.ศ.๒๕๕๙ ที่ได้เล่าสรุปให้ฟังไปแล้วหลายเรื่อง
ฉบับนี้ขอเล่าสรุปปิดท้ายโครงการเยี่ยมพระพบปะโยม ๕ จังหวัดชายแดนใต้ เป็นโครงการต่อเนื่องที่พระธรรมทูตอาสาในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนใต้ได้ลงไปเยี่ยมเยียนพระและโยมในพื้นที่ หรือหากพื้นที่ใดเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม เป็นต้น
ยังมีโครงการธรรมะคืนถิ่น คืนกำไรชีวิต คืนความดีให้ชุมชน เป็นการโครงการการเยี่ยมเยียนชาวพุทธและชาวเขาในพื้นที่ภาคเหนือ มีการแจกข้าวของและมอบธรรมะ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนในพื้นที่ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
และ โครงการนิทรรศการภาพ พระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพระพุทธศาสนา โดยมีกิจกรรมร้อยดวงใจบูชาพระบารมี และกิจกรรมน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยรอบบรมบรรพต (ภูเขาทอง) กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๗ – ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙
นอกจากนี้ก็มี โครงการประเมินและวิจัย เป็นการโครงที่สรุป ประเมินและวิจัยโครงการทั้งหมดเพื่อทราบถึงผลสัมฤทธิ์แต่ละโครงการซึ่งจากการประเมินโครงการพัฒนาศักยภาพพระวิทยากรนั้น แบบประเมินได้ชี้ชัดว่า พระวิทยากรมีความพึงพอใจในการอบรมอย่างมาก แต่มีข้อควรปรับปรุงคือเรื่องเวลาให้กระชับยิ่งขึ้น และสถานที่ที่อาจเปลี่ยนแปลงให้เหมาะแก่การอบรมมากขึ้น
สำหรับ โครงการพัฒนาศักยภาพพระวิทยากรที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและความเชื่อมากที่สุด ก็คือ “โครงการพระวิทยากรกระบวนธรรม”
ดังที่สหธรรมมิกผู้เข้าอบรมท่านหนึ่งได้บอกความรู้สึกหลังจากผ่านการอบรมว่า เพราะเป็นโครงการที่ทำให้เกิดทั้งอุดมการณ์และสร้างวิธีการในการทำงานไปพร้อมกัน
“ตั้งแต่อาตมาอบรมมา การอบรมแบบนี้มีประโยชน์ในการทำงานเผยแผ่ได้มากที่สุด และประทับใจในความเป็นกัลยาณมิตรของทุกรูปที่มาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้ได้พบเจอและเข้าใจการทำงานของแต่ละพื้นที่ เป็นการสร้างความเป็นหมู่ เป็นสงฆ์อย่างแท้จริง”
ส่วนการประเมินการเผยแผ่กับประชาชนและเยาวชนนั้น ผลประเมินทำให้เห็นมิติ ๔ ด้านคือ ๑. ความรู้ ความเข้าใจของผู้เข้าอบรม ๒. ความพึงพอใจ ทัศนคติที่มีต่อโครงการฝึกอบรมคุณธรรม จริยธรรมและบรรยายธรรม ๓. การนำความรู้ในหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ๔. การสืบสานพระพุทธศาสนาเผยแพร่ธรรม และผลสรุปว่าผู้ผ่านการอบรมแล้วมีความพึงพอใจในระดับมากในทุกด้าน
สำหรับโครงการเผยแผ่ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและความเชื่อมากที่สุดของประชาชนและเยาวชน ก็คือ โครงการเยี่ยมพระพบปะโยมที่ทำในพื้นที่ภาคใต้ เพราะถือเป็นรูปแบบของการเผยแผ่เชิงรุก โดยมีโยมท่านหนึ่งกล่าวกับพระวิทยากรที่ลงไปเยี่ยมโยมตอนเหตุการณ์น้ำท่วมกล่าวว่า “โยมดีใจมาก เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นพระมาเยี่ยมและนำของมาให้ เพราะปกติจะอยู่ที่วัด ถ้ามาก็จะมาแค่บิณฑบาตเท่านั้น แต่นี่โยมเดือดร้อน พระมาเยี่ยม โยมไม่เคยเห็น”
เพราะการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาจำเป็นต้องอาศัยความเสียสละของพระวิทยากร โดยท่านได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจอย่างไม่คิดเห็นแก่ประโยชน์สุขส่วนตัวดังที่กล่าวไว้ข้างต้น อย่างไรก็ตามประโยชน์ของผู้อื่น และความสุขสงบของสังคมจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยความเข้าใจในการทำงานซึ่งกันและกัน รวมทั้งหาแนวทางที่เราจะช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนกันต่อไป เพื่อสร้างสรรค์มรดกธรรมที่พระพุทธเจ้าฝากไว้ให้มีชีวิตและลมหายใจรับใช้สังคมต่อไปไม่สิ้นสุด
ร่วมสร้าง “มรดกธรรม” เพื่อความพ้นทุกข์ ตามพุทธประสงค์ต่อไปไม่สิ้นสุด จากคอลัมน์ ท่องเที่ยวโลกกะธรรม (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๒ ) โดย พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร.