![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/09/A4-พงศกร-1024x680.jpg)
![หนังสือ "หลักการทำบุญและการปฏิบัติธรรม" ในชีวิตประจำวัน โดย พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) พิมพ์ครั้งที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๙ โดยสำนักพิมพ์อนันตะ](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/IMG_260088.jpg)
ในชีวิตประจำวัน
โดย พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร)
พิมพ์ครั้งที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๙
โดยสำนักพิมพ์อนันตะ
ในหนังสือ “หลักการทำบุญ และปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน” โดย พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) เล่มนี้ เป็นบันทึกเล่มแรกที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์ตั้งใจเขียนเป็นจดหมายถึงโยมแม่ใหญ่ (คุณย่า) และโยมพ่อใหญ่ (คุณปู่) ของท่าน ในช่วงต้นๆ ของการมาจำพรรษาที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
เมื่อผู้เขียนได้อ่านก็ทราบเลยว่า ฝีมือการเขียนของท่านเจ้าคุณอาจารย์ไม่ธรรมดา นอกจากประสบการณ์ในการภาวนาที่เงียบเชียบไม่เคยแสดงตัวแล้ว ฝีไม้ลายมือในการเขียนก็ดุจเดียวกับการภาวนา
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งแรงบันดาลใจในการกราบเรียนถามถึงอัตโนประวัติของท่าน หลังจากที่ได้ขอความอนุเคราะห์ให้ท่านเขียนบทความ “ความเป็นมาของพระอภิธรรม” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ในรัชกาลที่ ๙ หลังจากพระองค์สวรรคตเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ในเนชั่นสุดสัปดาห์ เป็นจำนวน ๒๔ ตอน
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/06/22WKE1S1_12052017-4-Copy.jpg)
รำลึกวันวาน…มโนปณิธาน พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร)
ตอนที่ ๑๔ . วันแรกที่พบหลวงพ่อสมเด็จ วัดสระเกศฯ
โดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
จากนั้นจึงขอให้ท่านเล่าประวัติ เพื่อให้ผู้อ่านทราบประวัติของผู้เขียน ซึ่งปัจจุบัน (ปีพ.ศ.๒๕๖๐) ท่านย่างเข้าสู่วัย ๔๖ ปี ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังความคิดที่ลุ่มลึก บ่งบอกถึงกระบวนการทางความคิด ที่ผ่านการเคี่ยวกรำมาอย่างหนักตั้งแต่เป็นสามเณร
ดังที่ท่านเล่าให้ฟังจนทำให้ผู้เขียนและผู้อ่านอีกไม่น้อยมีพลังและแรงบันดาลใจในการเลือกที่จะใช้ชีวิตดำเนินไปบนมรรคาแห่งธรรมตามรอยพระพุทธองค์อย่างไม่ลังเลสงสัย จนกระทั่งเกิดเป็นคอลัมน์ “มโนปณิธาน” ใน นสพ.คมชัดลึก แห่งนี้ต่อมา หลังจากที่เนชั่นสุดสัปดาห์ ปิดตัวลง
![มโนปณิธาน พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ตอนที่ ๑๔ วันแรกที่พบหลวงพ่อสมเด็จ วัดสระเกศฯ หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๐ )](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/09/09KLE6S1_19092017-114-1024x803.jpg)
หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
ด้วยมโนปณิธานอันแรงกล้าของท่าน ยิ่งสร้างพลังให้กับผู้เขียนต่อ ประดุจไฟที่ส่องทางไปข้างหน้า ให้พลังใจโชติช่วงในวันที่สื่อกระดาษกำลังล้มหายจากแผงหนังสือไปจนกระทั่ง ร้านหนังสือไม่น้อยก็ทยอยปิดตัวลง แต่ธรรมะที่พระพุทธองค์ฝากไว้กับพระสงฆ์ที่อยู่บนทางอีกมากมาย กลับเดินทางผ่านการเปลี่ยนผ่านมาได้โดยตลอด และยังเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนในทุกมิติของสื่อ
ดังที่ท่านเล่าให้ฟังต่อมาในช่วงชีวิตที่เดินทางมาเรียนที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จนจบปริญญาโท และจำพรรษาที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร จนเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส และเลขานุการ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ในขณะนั้น ที่มุ่งทำงานสร้างพระสงฆ์เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกที่ตอบโจทย์สังคมและมีทางออกจากทุกปัญหาได้เป็นอย่างดี
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/08/S__78938124.jpg)
เบื้องหลังความมุ่งมั่นในมโนปณิธานของท่าน มีใครเป็นแรงบันดาลใจต่อมา…
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/09/DSC01101-1024x683.jpg)
“ที่วัดสระเกศจะทำวัตร ๓ รอบ คือ ทำวัตรเช้า ตอน ๘ โมงเช้า ทำวัตรเย็น ตอน ๕ โมงเย็น และทำวัตรค่ำ เริ่มตั้งแต่ ๓ ทุ่มเสร็จอีกทีก็ราว ๔ ทุ่ม หลวงพ่อสมเด็จ (สมเด็จพระพุฒาจารย์(เกี่ยว อุปเสโณ) ลงทำวัตรค่ำร่วมกับพระเณรทุกคืน พระเณรในวัดหรือญาติโยมที่คุ้นเคยเป็นอันรู้กันว่า ใครมีอะไรก็ไปพบท่านเวลานั้น ทำวัตรเสร็จพระเณรก็เดินมาส่งท่านจนขึ้นกุฏิ วันไหนมีดอกไม้ มีพวงมาลัยที่โยมถวายมา ท่านก็จะแจกให้พระเณรไปไหว้พระที่ห้องของแต่ละรูป ส่งหลวงพ่อสมเด็จเข้ากุฏิเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับ
![สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/09/สมเด็จพระพุฒาจารย์-เกี่ยว-อุปเสโณ.jpg)
จากนั้น พระผู้ใหญ่ในสำนักมีงานสิ่งใดที่จะถวายรายงาน ก็มาในเวลานี้ พอดึก ราว ๕ ทุ่มเศษ ท่านก็ออกเดินตรวจรอบวัดไปตามคณะต่างๆ มีไฟฉายกระบอกหนึ่งก็ส่องไปเรื่อยตั้งแต่คณะ ๑ จนถึง คณะ ๑๗ จึงกลับเข้ากุฏิสวดมนต์ภาวนาส่วนตัวภายในห้องแล้วจำวัตร
ที่จำวัตรหลวงพ่อสมเด็จ ปูด้วยผ้าอาบน้ำผืนเดียว บนพื้นไม้ธรรมดา มีหมอนใบเดียว ห่มผ้าจีวร ท่านไม่ใช้ผ้าห่ม ต่อมาเมื่ออายุมากย่างเข้าสู่วัยชรา มีปัญหาที่กระดูกต้นคอ หมอให้นอนเตียง จะช่วยได้ ท่านก็ยังลงมาปูผ้าอาบน้ำนอนข้างๆ เตียง บอกว่า เคยนอนแบบนี้มา
“เหตุที่หลวงพ่อสมเด็จให้มีทำวัตรค่ำ ท่านให้เหตุผลว่า ก็เพื่อให้พระเณรที่ต้องทำงานได้มีโอกาสทำวัตรสวดมนต์ เนื่องจากพระเณรมีงานเกี่ยวข้องหลายภาคส่วน เวลากลางวัน บางรูปที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา ก็ต้องไปเรียน บางรูปมีหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์ ก็ต้องไปสอน บางรูปมีหน้าที่เกี่ยวของกับการบริหารคณะสงฆ์ กับบ้านเมือง และสังคมในส่วนอื่นๆ ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่หมุนไปในแต่ละวันตามแต่จะเกิดขึ้น และตัวท่านเองจะได้มีโอกาสพบพระเณรพร้อมหน้าพร้อมตากันในเวลานั้นด้วย
“วันแรกที่อาตมาเดินทางมาถึงวัดสระเกศฯ ในขณะที่ยังเป็นเณรยังไม่ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อสมเด็จ ยังไม่รู้ที่ไหนเป็นที่ไหน ก็มีเหตุต้องให้พบท่านโดยบังเอิญ ขณะที่ท่านกำลังเดินกลับจากทำวัตรค่ำ อาตมาเปิดประตูออกไปส่องๆ ดูนอกคณะซ้ายขวา แบบสงสัย พบท่านก็ตกใจ รนรานรีบปิดประตูเสียงดังปัง! ได้ยินเสียงหลวงพ่อทุ่มลึก หนักแน่น ดังมาว่า ใคร? ยิ่งกลัวใหญ่ หลบเข้าไปตัวสั่นอยู่ที่หลังประตู
“ท่านให้พระที่เดินตามมาเรียกให้ออกไปพบ แล้วบอกว่า อย่ากลัวๆ คราวหลังเจอหลวงพ่อแล้วอย่าหนีนะ ต้องเข้ามาหา … ท่านคงเห็นท่าทางตื่นกลัว จึงพูดปลอบแล้วก็ถามที่มาที่ไป มาอยู่กับใคร ถามถึงสำนัก ถามถึงครูบาอาจารย์ ไม่นึกว่า คำว่า “ต้องเข้ามาหา” จะเป็นเหมือนพรแรกที่ได้รับจากหลวงพ่อสมเด็จ ทำให้ต้องมาสนองงานท่านในโอกาสต่อมา”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/09/ย่ามที่หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์มอบให้.jpg)
จากนั้น ท่านก็ให้พระไปเอาผ้าไตรจีวร เอาย่ามมาให้ ย่ามที่รับจากหลวงพ่อสมเด็จ อาตมาใช้มาร่วม ๒๐ ปี ตั้งแต่เป็นสามเณร แม้บวชเป็นพระได้ย่ามใบใหม่มา ก็ยังใช้ใบเดิมของหลวงพ่อสมเด็จ พอด้ายยุ่ยปริขาดตรงไหนก็ใช้เข็มเย็บเอง ทุกวันนี้ย่ามใบนั้นอาตมาใส่พานตั้งไว้ที่หัวนอน เพื่อระลึกถึงเมตตาธรรมของท่าน
จากคอลัมน์ มโนปณิธาน พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร)
ตอนที่ ๑๔ วันแรกที่พบหลวงพ่อสมเด็จฯ
โดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์
หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๐
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2019/09/09KLE6S1_19092017-1-671x1024.jpg)