กว่าจะมาเป็นกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม ยะลา ที่เกื้อกูลกันในชุมชน ระหว่างพระสงฆ์ บ้าน และวัด ในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างงดงาม ซึ่งก่อกำเนิดจากโครงการบิณฑบาต และแสดงธรรมทุกเดือน ที่กระทรวงยุติธรรมของกลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้

ความดียิ่งทำยิ่งอิ่มใจ ไปไหนก็อิ่มบุญ…เพราะมีต้นทุนเป็นธรรม…

ทุกอย่างจะเบา เพราะเราช่วยกัน

โดย พระมหาธนเดช  ธมฺมปญฺโญ

           “ขอบคุณท่านมากเลยนะเจ้าคะที่มา ถ้าไม่ได้ท่านนี่โครงการโยมแย่แน่ ๆ”

นี่อาจดูเหมือนเป็นคำขอบคุณธรรมดา หากไม่ได้เห็นแววตาของคนพูดที่แสดงถึงความซาบซึ้งอย่างมากมาย ทั้งที่การที่พระมารับบาตรและแสดงธรรมก็เป็นหน้าที่ มิได้เป็นการกระทำที่น่าขอบคุณอะไรมากมายขนาดนั้น

           “ไม่ต้องขอบคุณมากมายขนาดนั้นก็ได้ พระที่มาก็ได้ทำหน้าที่ด้วย” อาตมาตอบ

           “ไม่ให้ขอบคุณได้ไงเจ้าคะ ถ้าไม่ได้คณะพระอาจารย์มารับบิณฑบาตและแสดงธรรมทุกเดือน โยมก็ไม่ทราบว่าจะไปนิมนต์พระที่ไหน แล้วที่สำคัญโครงการนี้ผู้ใหญ่ท่านยิ่งปรามาสอยู่ว่า งบประมาณแค่นี้ ดูซิจะจัดกันได้กี่เดือน” โยมตอบกลับมาด้วยสายตาห่อเหี่ยว แต่เต็มไปด้วยความหวัง ว่าโครงการนี้จะอยู่รอดปลอดภัย และจัดต่อไปได้ทุกเดือน

           “ถ้าแบบนั้น อาตมาจะช่วยรับผิดชอบในส่วนของการนิมนต์พระ จัดรถรับ – ส่งท่าน โยมก็จัดการในส่วนของโยมแล้วกันนะ”

ทันทีที่ได้ยินคำตอบ แววตาอันห่อเหี่ยวนั้นก็พลันหายไป ไม่มีในสายตาอีกแล้ว

. . .

ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน โดย พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ

“ที่บิณฑบาตกันมาทุกเดือนนี่ เราเอาไปที่ไหนกัน?”

เสียงของพระเถระที่เรียกขานว่า “เจ้าคุณอาจารย์” ถามขึ้นในขณะนั่งฉันกาแฟยามเช้า

“ก็นำมาถวายพระที่ไปรับบาตร แสดงธรรม และนำบางส่วนเก็บไว้สำหรับจัดงานวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา” อาตมาชี้แจงการบริหารจัดการของที่รับบาตรมาได้

“ถ้าจะให้ได้ประโยชน์มากกว่านั้นล่ะ?” เจ้าคุณอาจารย์ถาม โดยที่เราก็ยังไม่เข้าใจว่ามีวัตถุประสงค์อันใด

“เราส่งไปให้เจ้าหน้าที่ภาคใต้สิ ให้เครือข่ายพระวิทยากรที่นั่นได้ทำงานร่วมกันกับเราด้วย อาจารย์มีของอีกส่วนหนึ่งมากพอสมควรอยู่ จะได้เอาไปด้วยกันทีเดียว ต้องช่วยกันนะ”

เจ้าคุณอาจารย์บอกต่อ โดยไม่ได้รอคำตอบ

“ครับ” อาตมารับคำ ทั้ง ๆ ยังนึกไม่ออกว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ

“เดี๋ยวอาจารย์จะประสานเรื่องการจัดส่งให้” คำพูดต่อไปเหมือนแสงสว่าง ของทางที่จะไปข้างหน้า ที่เจ้าคุณอาจารย์ได้มอบให้

. . .

“ท่านมาส่งของไปภาคใต้ทุกเดือนเลย ส่งไปไหนเหรอคะ?” โยมที่รับฝากส่งของถาม

“อาตมาส่งไปให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปเป็นกำลังใจให้กัน อย่างน้อยคนที่อยู่ที่นั่น อยู่แนวหน้า ก็ได้รู้ว่า แนวหลังอย่างพวกเราไม่ได้ทอดทิ้งเขา” อาตมาอธิบาย

“เหรอเจ้าคะ ดีจังเลย งั้นค่าจัดส่งทั้งหมดในทุกเดือน โยมถวายนะเจ้าคะ” ประโยคแห่งความเบาใจ ที่ทำให้ทั้งผู้ถวายและผู้รับล้วนต่างมีรอยยิ้ม

“อนุโมทนาในน้ำใจของโยมนะ ที่ร่วมเป็นอีก ๑ กำลังใจที่ส่งไปให้เจ้าหน้าที่ที่โน่น” ต่อไปนี้จะไม่ได้มีแค่ของที่ส่งไป แต่มีรอยยิ้มและกำลังใจฝากรวมไปด้วย

. . .

ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน โดย พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ

ทุกครั้งที่เดินทางไปจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปเยี่ยมให้กำลังใจและมอบของที่ได้จากการรับบิณฑบาตให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คำถามที่ได้ยินเสมอ ๆ คือ “ท่านให้โยมเตรียมอะไรไหม?”

คำตอบที่ตอบไปทุกครั้งคือ “ไม่ต้องเตรียมอะไร เตรียมกายและใจ มาช่วยกัน หลวงพ่อสมเด็จฯ (สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อุปเสณมหาเถร) – อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ) ท่านเคยให้โอวาทไว้ว่า ‘ไปที่ไหนให้ไปเป็นบุญใจ อย่าไปให้เขาลำบาก ไปเป็นพลังให้ญาติโยม ไม่ใช่ไปเป็นภาระ’ แค่พวกเรามาช่วยกัน แค่นั้นก็ยิ่งใหญ่แล้ว”

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ)

การที่พวกเรามาช่วยกัน เป็นพลังให้กันนี่เอง ทำให้เกิดความเข้มแข็ง จนรวมกันก่อตั้งเป็น “กลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม ยะลา” ขึ้นมา

. . .

ก่อนวันที่จะรับบาตรเป็นประจำในแต่ละเดือน …เดือนหนึ่ง ข้อความสนทนาในโปรแกรมยอดนิยมสีเขียวก็แจ้งเตือนขึ้น

“พระอาจารย์เจ้าคะ โยมจะไปเรียนผู้ใหญ่เรื่องการต่อยอดโครงการบิณฑบาต และแสดงธรรม ว่าเราได้ต่อยอดโดยการนำของเหล่านี้ส่งไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เผื่อว่าท่านจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่ไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไรนะเจ้าคะ”

อาตมาก็อนุโมทนาไป และทันใดนั้นก็มีสายเรียกเข้าจากเจ้าคุณอาจารย์ “ท่าน หลวงพ่อเจ้าอาวาสเรียกพบ ให้ไปฉันเพลด้วยวันนี้” ในฐานะพระหนุ่มเณรน้อยที่สังกัดในอารามใหญ่ การได้ไปพบเจ้าอาวาสมิใช่เรื่องธรรมดาเลย ยิ่งถ้านับรวมกิตติศัพท์ของท่านเรื่องความเด็ดขาด และเอาจริงเอาจังด้วยแล้ว ยิ่งทำการเข้าพบครั้งนี้ไม่ธรรมดาขึ้นไปอีก

. . .

ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน โดย พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ

“มา ๆ นิมนต์ฉัน วันนี้โยมนำอาหารมาถวายหลายอย่าง ช่วยกันฉันให้หมดนะ” หลวงพ่อกวักมือเรียกและผายมือให้นั่งลงตรงเก้าอี้ข้างท่าน อาตมาสบตาพระที่ฉันร่วมกันด้วยคำถามว่า ผมนั่งตรงนี้ถูกต้องแล้วใช่ไหม?

 ทุกท่านต่างตอบด้วยสายตาว่า หลวงพ่อท่านให้นั่งตรงไหนก็ควรนั่งตรงนั้น

“ฉันเยอะ ๆ นะ กับข้าวเจ้านี้ดีเลยทีเดียว” หลวงพ่อพูดพลางยกโถข้าวมาให้ อาตมาตักข้าวใส่จาน แล้วค่อย ๆ ฉัน เรียกพบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีข้าวให้ฉันไปเรื่อย ๆ ในเวลาที่ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับหลวงพ่อ แต่ผิดจากที่คิดไว้ หลวงพ่อท่านถามสารทุกข์สุกดิบ ความเป็นอยู่ จนมาถึงเรื่องการทำงาน

“ได้ข่าวว่าไปภาคใต้กันทุกเดือน ไม่กลัวกันบ้างเหรอ?” หลวงพ่อถามขณะที่หมุนจานกับข้าวที่ท่านแนะนำให้ฉันมาให้ตรงหน้า

“ก็มีบ้างครับ” อาตมาตอบ พร้อมนึกถึงกิตติศัพท์ความเด็ดขาด และเอาจริงเอาจังของหลวงพ่อ

ท่านหันมายิ้ม แล้วบอกว่า “เราอย่าไปคิดเยอะสิ ปัญหามันอยู่ที่ความคิด วิธีแก้มันอยู่ที่การลงมือทำ ถ้ามั่นใจว่าดี เป็นประโยชน์ต่อโยม ต่อพระพุทธศาสนา ทำเลย อย่าคิดเยอะ” หลังจากได้ฟัง อาตมาก็ได้รู้ว่านี่สินะความเด็ดขาดของหลวงพ่อ ถ้าดีคือทำ ไม่ต้องคิดเยอะ

หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จ ท่านบอกว่าอย่าเพิ่งกลับ พร้อมมอบปัจจัยจำนวนหนึ่งให้ และกำชับว่า “ทำนะท่าน โครงการนี้ต้องทำอย่างจริงจัง อย่าทิ้งโยม อย่าทิ้งพระที่นั่นให้สู้อยู่โดยลำพัง ปัจจัยนี้มอบเป็นกำลังให้โครงการ ถ้ามีอะไรที่หลวงพ่อจะช่วยได้ ให้บอกได้เลย”

. . .

ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน โดย พระมหาธนเดช  ธมฺมปญฺโญ
ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน โดย พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ

รุ่งขึ้นก็ไปรับบาตร ทันที่ที่เจอหน้ากัน โยมก็พูดขึ้นทันทีว่า “พระอาจารย์ พวกเรามีเรื่องจะเล่า” อาตมานึกขึ้นในใจว่า อาตมาก็มีเรื่องจะเล่าเหมือนกัน แต่ดูเหมือนเรื่องของโยมมันจะเร่งด่วนในการเล่ากว่า เพราะมันถูกเล่าทันทีที่คณะอาตมานั่งลงบนเก้าอี้

           โยมเล่าถึงบรรยากาศการเข้าไปเรียนผู้ใหญ่เรื่องโครงการเมื่อวานว่า “ท่านก็ไม่ได้ยินดี ยินร้ายอะไร ไม่ยุติโครงการ และไม่สนับสนุน พวกหนูก็บอกว่า โครงการดีมากเลยนะคะ เป็นประโยชน์มาก ท่านบอกว่า งบประมาณมีให้เท่านี้ ถ้าเธอเห็นว่ามันดี พวกเธอก็หาคนมาทำสิ” ในขณะที่นั่งฟัง อาตมาสัมผัสได้ถึงความอัดอั้นที่อยู่ในนั้น

           “แล้วโยมตอบไปว่ายังไง?” อาตมาถามต่อ

           “หนูตอบไปว่า ‘ค่ะ’ คำเดียว” อาตมาพยักหน้าอย่างเข้าใจ

           ความเงียบ ผ่านไปครู่หนึ่ง แล้วโยมก็พูดขึ้นว่า “อันที่จริงคำว่า ‘ค่ะ’ นี่เป็นคำย่อนะคะพระอาจารย์”

           “ย่อมาจากอะไร?” อาตมาสงสัย

           “ก็ย่อมาจาก ‘ได้ค่ะ เดี๋ยวพวกหนูกับพระจะช่วยกันทำ’ ไงคะ” โยมตอบพร้อมรอยยิ้มและแววตามุ่งมั่น

         “อะไรทำให้โยมมั่นใจแบบนั้น?” อาตมาถามย้ำถึงความมุ่งมั่นในแววตา

           “เพราะพวกเราช่วยกัน ทุกอย่างมันเลยเบาไงคะพระอาจารย์” โยมยืนยัน

           หลังจากจบคำยืนยัน อาตมาเลยเล่าเรื่องที่ได้ไปเข้าพบหลวงพ่อให้ฟัง พร้อมโอวาทที่หลวงพ่อให้ในขณะฉันข้าว ก่อนกลับโยมเดินมาส่งพร้อมบอกว่า “เราจะช่วยกันนะคะ พวกหนูจะไม่คิดเยอะ ให้ปัญหามันยุติที่การลงมือทำ จะได้สมชื่อว่าสังกัดกระทรวงยุติธรรม”

           . . .

ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน โดย พระมหาธนเดช  ธมฺมปญฺโญ
ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน โดย พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ

ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันในโครงการ

๑. พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ พระผู้เป็นกำลังให้กับโครงการนี้ ท่านได้เสียสละเอากำลังที่ท่านมีสร้างบารมีช่วยพวกเราทำงาน

๒. เจ้าคุณอาจารย์พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) พระผู้คอยเคียงข้างและยืนหยัดเพื่อพระหนุ่มเณรน้อยที่ทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา

๓. คณะจิตอาสา กลุ่มใต้ร่มพุทธธรรม ยะลา ที่ช่วยกันทำงานด้วยความเข้มแข็ง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์สนับสนุน

๔. คณะทำงานที่กระทรวงยุติธรรม ที่ทำให้รู้ว่าทุกปัญหายุติได้ด้วยการลงมือทำ

๕. ผู้มีส่วนร่วม ผู้สนับสนุนทุกท่าน ในโครงการนี้

ทุกอย่างจะเบา ถ้าเราช่วยกัน :
พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ
ผู้เขียน


***
ท่านมาส่งของไปภาคใต้ทุกเดือนเลย ส่งไปไหนเหรอคะ?”
โยมที่รับฝากส่งของถาม  

“อาตมาส่งไปให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปเป็นกำลังใจให้กัน อย่างน้อยคนที่อยู่ที่นั่น อยู่แนวหน้า
ก็ได้รู้ว่า แนวหลังอย่างพวกเราไม่ได้ทอดทิ้งเขา”
อาตมาอธิบาย
หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒

คอลัมน์ เย็นกายสุขใจ โดยพระมหาธนเดช  ธมฺมปญฺโญ
หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๒

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here