“ให้ท่านทั้งหลาย ตระหนักว่า “ภาระพระศาสนา” นับจากนี้ไป วางอยู่บนบ่าทั้งสองของท่าน ปกป้อง คุ้มครองพระศาสนา ตราบเท่าลมหายใจของเรา”

        เป็นคำกล่าวของท่านอาจารย์เจ้าคุณพระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ, เลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ ในขณะนั้น ได้กล่าวให้โอวาทแก่พระวิทยากรกระบวนธรรม

        จากคำกล่าวนี้จะเห็นว่าภาระพระศาสนาที่พระวิทยากรกระบวนธรรมต้องสานต่อคือ งานเผยแผ่พระพุทธศาสนา และงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ก็หมายถึงงานทั้ง ๖ ด้านของคณะสงฆ์นั้นเอง

บทความพิเศษ ๑๐

งบอุดหนุนจากสำนักงานพุทธฯ ถ้านำไปใช้ในงาน ๖ ด้าน ถือว่าเป็นการใช้งบไม่ผิดประเภท ไม่ผิดวัตถุประสงค์ และไม่ผิดฟอกเงิน

โดย พระใบฏีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม

        สำหรับงานของคณะสงฆ์ หรือที่เรียกว่า “การคณะสงฆ์” กล่าวคือ เป็นงานหรือหน้าที่ของคณะสงฆ์ที่ต้องดำเนินการ เห็นได้จากพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๑๕ ตรี (๑) และ (๓) และข้อ ๕ แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๓ (พ.ศ.๒๕๔๑) ว่าด้วยระเบียบการปกครองคณะสงฆ์  กล่าวถึง “การคณะสงฆ์” ไว้อย่างชัดเจนมี ๖ ด้าน คือ

          ๑) การรักษาความเรียบร้อยดีงาม   คือ งานปกครองคณะสงฆ์ มีมหาเถรสมาคมเป็นองค์กรการปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธาน และมีลำดับชั้นปกครองตั้งแต่เจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบลลงไปจนถึงระดับเจ้าอาวาส เพื่อบริหาร ดูแล ให้เกิดความเรียบร้อยดีงามในคณะสงฆ์

(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)
(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)

        

  ๒) การศาสนศึกษา คือ การศึกษา เล่าเรียน และฝึกอบรม เป็นการจัดการศึกษาด้านพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์ แบ่งออกเป็น แผนกธรรม-บาลี และแผนกสามัญ คือ ตั้งแต่มัธยมศึกษาจนถึงปริญญาเอก รวมถึงโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา และยังหมายความรวมถึงบุคลาการและเจ้าหน้าที่ทางการศึกษาในแต่ละแผนกอีกด้วย

          ๓) การศึกษาสงเคราะห์  เป็นการจัดการศึกษาของวัด และเกิดจากการดำเนินการของคณะสงฆ์ คือ เป็นการจัดการศึกษา เพื่อการสงเคราะห์ลูกหลานชาวบ้านให้ได้รับการศึกษา ซึ่งการจัดการศึกษาแบบโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนาที่จัดการศึกษาแบบเด็กก่อนเกณฑ์ เด็กอนุบาล ประถม และมัธยม ศูนย์การเรียนรู้ศีลธรรมในวัด หรือศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์, รวมถึงการมอบทุนการศึกษาด้วย

(ขอขอบคุณ ภาพจาก PPTV)
(ขอขอบคุณ ภาพจาก PPTV)

๔) การเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ เป็นการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเพื่อให้คนทั่วไปได้มีความรู้และเข้าใจ แล้วนำหลักธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา หรือบรรยายธรรมทั้งในวัดและนอกวัดผ่านทางวิทยุ โทรทัศน์ หรือผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือธรรมะ หนังสือพิมพ์ วีดีทัศน์ รวมถึงทาง Social Network และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหมายความรวมถึงทั้งในและนอกประเทศอีกด้วย

        ๕) การสาธารณูปการ คือ การก่อสร้างและการบูรณปฏิสังขรณ์ด้านศาสนสถานภายในวัด เพื่อเป็นการพัฒนาทางด้านศาสนวัตถุทุกอย่าง เช่น อาคารเรียน ศาลาการเปรียญ อุโบสถ วิหาร กุฏิ หอพระธรรม เมรุ ฯ เป็นต้น ยังรวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมให้มีความสะอาด สะดวก สบาย ร่มรื่น ให้เกิดความศรัทธาแก่ผู้คนเมื่อพบเห็น

(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)
(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)

        ๖) การสาธารณสงเคราะห์ คือเป็นภารกิจที่วัดหรือคณะสงฆ์ดําเนินการช่วยเหลือสังคมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การช่วยเหลือประชาชนทั่วไป, ช่วยผู้ยากไร้และผู้ประสบอุทกภัย, งานกุศลเกี่ยวกับที่เกี่ยวกับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย, ฯ เป็นต้น รวมถึงการสงเคราะห์พระภิกษุ-สามเณร และวัดที่ขาดแคลน

          การคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้านที่ได้อธิบายมาพอสังเขป จากการเกิดขึ้นของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๗ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ ฉ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๓ ก็เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และสนองงานคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้าน

        งานทั้ง ๖ ด้านถ้าวิเคราะห์ตามหลักการตั้งแต่ปฐมเหตุของเรื่องนี้ กล่าวคือ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้บรรลุธรรม จึงได้จาริกธรรมไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา และได้แสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกให้แก่ปัญจวัคคีย์ คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ  ในครั้งนั้นโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรมและได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา จากนั้นพระพุทธองค์ทรงมอบให้โกณฑัญญะ ปกิณณกเทศนา เพื่อนอีก ๔ คนที่เหลือจนบรรลุโสดาบันในเวลาต่อมา

(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)
(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)

        นี้คืองานเผยแผ่พระพุทธศานาได้เกิดขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่พระพุทธองค์เดินทางจากพุทธคยา ไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เพื่อไปแสดงธรรมให้กับปัญจวัคคีย์จนโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม และได้สอนธรรมแก่เพื่อนอีก ๔ คน ได้ดวงตาเห็นธรรม จึงเกิดเป็นคณะสงฆ์ขึ้น และได้ช่วยกันทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ทำให้มีพระภิกษุจำนวนมากขึ้น จึงนำมาสู่การวางระเบียบแบบหรืองานปกครอง และงานด้านการศึกษา การสาธารณูปการ และการสาธารณสงเคราะห์ หรืองานทั้ง ๖ ด้านที่เข้าใจกันในปัจจุบัน ได้เกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยพุทธกาลดังปรากฏในพุทธประวัติที่ทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้ว

        หรือถ้ามองในบริบทของพระพุทธศาสนาที่ได้เข้ามาในประเทศไทย ครั้งที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งพระธรรมทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั่วโลก มีทั้งหมด ๙ สาย โดยสายที่ ๘ พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ มาเผยแผ่พระพุทธศาสนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ปัจจุบันประกอบไปด้วยในพื้นที่ ลาว, กัมพูชา, พม่า และไทย

(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)
(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)

          พระพุทธองค์จาริกไปเพื่อแสดงธรรมให้กับปัญจวัคคีย์จึงทำให้เกิดงานทั้ง ๖ ด้าน ครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะพระโสณเถระและพระอุตตระเถระเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ ได้มีการสร้างองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เกิดขึ้นตั้งแต่ในยุคพระพุทธศาสนาเข้ามาสู่ประเทศไทยและก็เกิดงานทั้ง ๖ ด้านตามมาคือ ซุ้มประตูโขง กำแพงวัด วิหาร พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ หอพระไตร  การสร้างองค์พระพุทธรูป สร้างหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้มีความสะอาด สะดวก สบาย ร่มรื่น ให้เกิดความศรัทธาแก่ผู้คนเมื่อมาพบเห็น    

          เมื่อมาดูเจตนารมณ์ที่แท้จริงของงานทั้ง ๖ ด้าน ทั้งหมดก็คืองานเผยแผ่พระพุทธศาสนานั่นเอง เพราะงานในแต่ละด้านก็ล้วนมีเจตนารมณ์ที่แท้จริงอันเดียวกันคือให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา เข้าใจ มีความรู้ในหลักธรรมคำสอน น้อมจิตเข้าหาพระรัตนตรัย  ฝึกฝน พัฒนาตนเองจนไปถึงขั้นสูงสุดคือพระนิพพาน

(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)
(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)

        เมื่อวัดหรือหน่วยงานที่เกิดขึ้นตามมติมหาเถรสมาคม ได้รับงบอุดหนุนจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นำไปดำเนินการโดยมีเป้าหมายให้เกิดประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา และยังอยู่ในขอบเขตของงานทั้ง ๖ ด้าน และชี้แจงที่ไปที่มาของเงินได้ ประกอบกับไม่มีเจตนาทุจริตเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่น ถือว่าเป็นการใช้งบอุดหนุนไม่ผิดประเภท ไม่ผิดวัตถุประสงค์  และไม่ผิดฟอกเงิน

        อนึ่ง ที่ผ่านมาทำให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับงบอุดหนุนการเผยแผ่ หรือที่เข้าใจตามสื่อ คือ กรณีของคดีที่เรียกว่าเงินทอนวัด เพราะงานเผยแผ่ของคณะสงฆ์ หมายถึงภาระงานทั้ง ๖ ด้าน แต่ความเข้าใจระหว่างความหมายของทางโลกกับทางธรรมสวนทางกัน จึงนำมาซึ่งแรงสั่นสะเทือนอันใหญ่หลวงต่อพระพุทธศาสนา เพราะทางโลกเข้าใจคำว่าเผยแผ่แค่การทำงาน PR หรือการประชาสัมพันธ์เท่านั้น แต่ในทางธรรม หรือความหมายของคณะสงฆ์การทำงานเผยแผ่คืองานทั้ง ๖ ด้านที่กล่าวมาซึ่งมันยิ่งใหญ่มาก

        จากเหตุที่มีการตีความของคำว่า “การเผยแผ่” ที่คลาดเคลื่อน ให้เกิดเข้าใจไม่ตรงกันและผิดไปจากเจตนารมณ์ที่แท้จริงในทางธรรมหรือคณะสงฆ์ จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อคณะสงฆ์อย่างใหญ่หลวงที่เกินจะเยียวยาได้

        ในประเด็นนี้เรื่องการตีความของคำว่า “งานเผยแผ่” เพื่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความหมายของคณะสงฆ์ อาตมาตั้งข้อสังเกตว่าการตีความดังกล่าว มีเจตนาพิเศษอะไรซ้อนอยู่หรือไม่ เพราะเป็นการตีความเพื่อให้เข้ากับข้อกฎหมาย และใช้เทคนิคทางกฎหมายเอาผิดกับวัด หรือพระภิกษุเท่านั้น

(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)
(ขอขอบคุณภาพจาก PPTV)

        ดังนั้น เมื่อวัดหรือหน่วยงานของคณะสงฆ์รับงบอุดหนุน แค่เพียงให้งบอุดหนุนนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์ของพระพุทธศาสานา และยังอยู่ในขอบเขตของงานทั้ง ๖ ด้านที่ถือว่าเป็นงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ก็เป็นการใช้งบอุดหนุนที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว

        หน่วยงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ทางฝ่ายบ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง ควรนำหลักการนี้ไปเป็นหลักในการวินิจฉัย หรือใช้ดุลพินิจกับกรณีการใช้งบอุดหนุนของคณะสงฆ์ด้วย จึงจะถือว่าเป็นการให้ความยุติธรรมกับคณะสงฆ์

        เพราะหลักการนี้รัฐกับคณะสงฆ์ได้ถือปฏิบัติร่วมกันมาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน และการใช้งบอุดหนุนดังกล่าวก็เป็นไปตามพุทธพจน์ที่ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก เพื่อความสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย”

บทความพิเศษ ๑๐

เรื่อง งบอุดหนุนจากสำนักงานพุทธฯ ถ้านำไปใช้ในงาน ๖ ด้าน

ถือว่าเป็นการใช้งบไม่ผิดประเภท ไม่ผิดวัตถุประสงค์ และไม่ผิดฟอกเงิน

ดย พระใบฏีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม

พระใบฏีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม ผู้เขียน

งบอุดหนุนจากสำนักงานพุทธฯ ถ้านำไปใช้ในงาน ๖ ด้าน

ถือว่าเป็นการใช้งบไม่ผิดประเภท ไม่ผิดวัตถุประสงค์ และไม่ผิดฟอกเงิน

พระใบฏีกาคทาวุธ คเวสกธมฺโม

ผู้เขียน

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here