ครั้งแรกในการเดินทางไปจาริกธรรมในสหรัฐอเมริกา
กับการเตรียมตัวการเดินทางอันอบอุ่นไปด้วยพี่น้องสหธรรมมิก
ท่ามกลางครูบาอาจารย์ ลูกศิษย์ ญาติธรรม
และที่ขาดไม่ได้คือ “ครอบครัวกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม”
สังฆะพระวิทยากรผู้บุกเบิกงานค่ายสร้างสรรค์
ในนามสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง
แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
ที่ต่างเดินทางมาส่งที่สนามบินกันอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมายกัน
ความงดงามเช่นนี้ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า กัลยาณมิตรคือที่สุดของชีวิตจริงๆ
ครู-ศิษย์-กัลยาณมิตร
และครอบครัวเพื่อชีวิตดีงาม
ในวันเดินทางจาริกธรรมในสหรัฐอเมริกา (๑)
โดย โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
วันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๒
วันนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปปฏิบัติศาสนิกกิจต่างแดนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกของชีวิต ณ วัดพุทธเมตตามหาบารมี รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าอาวาสวัดชื่อว่า พระสมุห์พิสิษฐ์ ฐิตปญฺโญ (โอบนิธิฐนิต)
ผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้มีด้วยกัน ๓ รูป ซึ่งประกอบด้วย พระมหาเอกรินทร์ มหาปญฺโญ (อินทร์สำราญ), พระมหาบุญศรี สุทฺธิญาโณ (โพธิ์กระสังข์) และ พระสุพัฒน์ อนาลโย คือผู้เขียนเอง
อาตมามีความรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่กลับมาจากจังหวัดตรัง ขอพระครูปลัดทรัพย์ชู มหาวีโร หยุดพักสักสองอาทิตย์เตรียมกายใจที่เดินทางไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ความประทับใจต่อพระอาจารย์ทรัพย์ชูมีอยู่มากหลาย โดยเฉพาะวันที่ต่างต้องแยกย้ายกันเดินตามวีถีธรรมที่รับผิดชอบของแต่ละท่าน หลังกลับมาจากตรังท่านก็ไปอบรมเด็กที่โรงเรียนดงมะไฟ จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เข้าไปอบรมค่ายพุทธบุตรครั้งแรกของท่าน เป็นช่วงที่ท่านเตรียมโครงการแบ่งปันน้ำใจให้น้อง และจัดปฏิบัติธรรมเยาวชนให้ใกล้ธรรมที่บ้านเกิดของท่าน
คนเราทุกคน ทุกเรื่อง มีจุดเริ่มต้นและจบเหมือนกัน ใครที่ไม่ลืมบุญของคนอื่นควรยกย่องบูชาอย่างสุดหัวใจ ดังเช่น พระอาจารย์ทรัพย์ชู เป็นต้น
ส่วนผู้เขียนในช่วงขอหยุดพักเตรียมตัวไปอเมริกา ก็มีเหตุการณ์ที่ให้ประทับใจ พระอาจารย์ท่านได้พูดให้กำลังใจว่า “ถ้าจะไปก็ให้ไปให้สุดทางเดินเลยแล้วจึงหันกลับมาใหม่” และให้จำความคำสอนหลวงตาสุริยา มหาปัญโญ ด้วยว่า “รู้สึกตัวและอยู่กับปัจจุบันธรรม”แล้วท่านได้ถวายผ้าไตรจีวรและพูดว่า “ใช้ผ้าจีวรให้ด้วยนะครับ…”
ผู้เขียนพูดว่า “ครับผม แล้วผมจะกลับมาเรียนกัมมัฏฐานกับพระอาจารย์ต่อครับ …เดี๋ยวผมจะเล่าให้องค์หลวงตาฟังครับ…”
“ขอให้พระอาจารย์เดินทางปลอดภัย
มีโอกาสเดียวมาร่วมทางกันสร้างบุญบารมีกันอีกครับ…สาธุขอบคุณครับผม”
นี่คือความประทับใจเป็นอย่างมากที่ผู้เขียนมีต่อพระอาจารย์ทรัพย์ชู
วันเวลาหมุนผ่านไป ยิ่งใกล้วันเดินทางก็ยิ่งตื่นเต้นเพิ่มมากขึ้น จะต้องเตรียมกระเป๋าเดินทางก็ยังไม่มี ให้น้องสาวไปซื้อมาให้ และคณะญาติธรรมทราบข่าวได้สรรหาจัดซื้ออุปกรณ์กันหนาว ของใช้สอยจำเป็นในต่างแดน และได้ไปปล่อยปลาให้อาหารปลาที่พุทธมณฑลก่อนที่จะมาอเมริกา ได้เห็นความตั้งใจน้ำจิตน้ำใจทุกท่านที่มีต่อผู้เขียน บางทีว่าเราตื่นเต้นแล้วโยมตื่นเต้นพอๆ กันหรือไม่มากกว่า
(มุทิตาจิต…พลอยยินดี…ดีใจแทนพระ)
ในที่สุด… วันที่รอคอยก็ได้มาถึง…
พระอาจารย์เชิดศักดิ์ สิริจนฺโท เป็นกัลยาณมิตรกันที่ได้พบเจอกันครั้งแรกที่ไปอบรมค่ายพุทธบุตรที่โรงเรียนวังยาว จังหวัดน่าน ท่านเป็นพระนิสิตจิตอาสามหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันที่ได้เป็นพระวิทยากรอบรมค่ายพุทธบุตรทั่วประเทศ ขยันอดทนรับผิดชอบงานหน้าที่ มีความเป็นผู้นำ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องได้ยึดถือเป็นแบบอย่าง
ท่านเดินทางจากศรีสะเกษมาถึงกรุงเทพมหานครตอนเช้า และมาฉันเพลด้วยกัน ในระหว่างทางท่านนั่งแท็กซี่มา โยมถามว่า “ท่านจะไปที่ไหนครับ”
“อาตมาจะไปหาเพื่อนที่วัดพระยาทำ ท่านจะเดินทางไปอเมริกาวันนี้นะ”
คนขับแท็กซี่ว่า “ต้องไปให้ทันฉันเพลกับเพื่อนวันสุดท้ายให้ทันนะ”
พอได้ยินคำนี้ทำให้สะเทือนใจ ได้เห็นความมีน้ำใจของท่านที่เดินทางไกลจากจังหวัดศรีสะเกษมากรุงเทพฯ เพื่อมาส่งเรา วันนี้รู้สึกฉันข้าวได้อย่างมีความสุขอย่างมาก หลังจากที่ฉันข้าวได้น้อยมาหลายวันแล้ว เพราะตื่นเต้นจะได้ไปต่างประเทศ
และท่านได้ให้ลูกศิษย์วาดภาพรูปเหมือนคู่กันมาถวาย ดีใจมากเราเคยแต่วาดให้คนอื่น พอได้รับบ้างเลยเข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เราเคยวาดภาพล้อเลียนให้ มีความสุขใจเพียงใด กายพาปากยิ้มใจก็คอยยิ้มไปด้วย
ตอนบ่ายสามโมง… ผู้เขียนและเพื่อนได้ไปกราบลาหลวงพ่อเจ้าอาวาสว่า “ผมจะขออนุญาตหลวงพ่อไปปฏิบัติศาสนกิจต่างประเทศครับผม”
หลวงพ่อว่า “ประเทศอะไร ไปอยู่กี่ปี อยู่วัดอะไรหรือ”
ผู้เขียนว่า “ประเทศอเมริกา ไปอยู่สองปีตามวีซ่าที่เขากำหนดให้ไว้ครับ และไปอยู่วัดพุทธเมตตามหาบารมี รัฐมิสซิสซิปปี ครับผม … หลวงพ่อครับ มีคำแนะนำในการใช้ชีวิตต่างแดนไหมครับ”
หลวงพ่อว่า “อดทน ให้อดทน บ้านเมืองเขาไม่เหมือนบ้านเรานะ ที่นั่นต้องช่วยเหลือตนเอง เช่น ไปนั่งแท็กซี่เขาไม่ขนของให้เรานะ เขาช่วยเหลือเราควรให้ทิปเขา บ้านเรานั่งคุยกันในรถถูกใจบริการส่งให้ถึงบ้านฟรีก็ได้ถ้าคุยถูกใจกัน ต้องอดทนเอานะ”
จากนั้นก็ได้กราบลาท่าน ๓ ครั้ง…ฝนตกลงมารินๆ โปรยปรอยๆ เป็นสายหยดลงมาทำให้เย็นทั้งกายใจบวกกับคำอวยพรจากหลวงพ่อรู้สึกเหมือนได้รับพร
รถของน้องสาวมารอรับส่งไปสนามบินสุวรรณภูมิก็มาถึงพอดี… ให้น้องชายขนกระเป๋าขึ้นรถในท่ามกลางสายฝนที่รินเบาๆ ให้ใจที่ตื่นเต้นได้ชุ่มชื่นขึ้นสงบลงมาอีกครั้ง ใช้เวลาเดินทางพอสมควรจากที่พักไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ขึ้นไปชั้นสองดูเวลาไฟล์การบินออกเวลาเท่าไรกับเพื่อนและน้องชาย
เสียงแว่วดังขึ้นข้างหลังว่า “พระอาจารย์” หันหลังกลับมองดู เห็นโยมวรรณา ต๊ะ … “เจริญพรจ้า…” อาตมาทักทาย
โยมต๊ะว่า “พระอาจารย์ โยมดีใจด้วยนะที่ท่านได้ไปต่างประเทศ… เพราะพระอาจารย์ทำให้โยมได้ขับรถมาที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก…ตื่นเต้นไหมคะ”
พระว่า “ตอนนี้นิดหน่อยแล้วจ้า”
โยมต๊ะว่า “เราขึ้นไปชั้นข้างบนไปหาที่นั่งกันก่อนนะ แล้วมีใครมาส่งอีกไหม มีพระอาจารย์กลุ่มเพื่อชีวิตดีงามมาไหมนะ”
พระตอบว่า “มีน้องสาวและพระอาจารย์แม้ว ท่านเพิ่งโทรฯ มาบอกว่าจะมาส่งอยู่จ้า”
ในระหว่างที่เดินขึ้นไปชั้นสาม ก็พบพระอาจารย์ขวัญชัย กิตติเมธี อดีตประธานกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม พระอาจารย์มหาสมควร ถีรสีโล และ คณะเพื่อนที่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่วัดสุวรรณภูมิใกล้ๆ กันตอนนี้
นี่คือเสน่ห์ของชาวพี่น้องกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ไปไหนก็ไปกันร่วมสุขทุกข์ด้วยกัน ผู้น้อยให้ความเคารพผู้ใหญ่แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตัว ผู้ใหญ่ผู้น้อยติเตือนกันได้ด้วยเหตุผล
บางครั้งประชุมกันในการทำงานอบรมเด็กจนดึกดื่นดุเดือดเพื่อหาข้อตกลงให้ถูกต้องตามความจริงแบ่งบทบาทหน้าที่ของตนที่ถนัด… เราจะไม่โดดเด่นคนเดียว… เราเอาจุดเด่นของแต่ละรูปมาเติมเต็มกันและกัน เพื่อให้งานออกมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
เมื่อเข้ามาทำงานกลุ่มร่วมสุขทุกข์ทุกแห่งหนในนามกลุ่มเพื่อชีวิตดีงามแล้ว จะอยู่ในฐานะเป็นฆราวาสหรือบรรพชิตนั้นไม่ใช่สาระสำคัญ
ที่สำคัญจริงๆ นี่คือว่า “ความเป็นพี่น้องกันของกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ทำงานด้วยใจใส่ใจงานที่ทำให้ความสำคัญกับคนที่เราคุยด้วย”
ผู้เขียนได้เห็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์พี่น้องมาส่งไปต่างประเทศ หัวใจรู้สึกสัมผัสถึงความอบอุ่นของครอบครัวเพื่อชีวิตดีงาม ใจเบิกบานน้อมไหว้ยิ้มทักทายกันเบื้องต้น อิ่มเอิบใจจริงๆ มีพลังที่จะทำงานของศาสนาต่อไป ต่างคนต่างทำหน้าที่รับผิดชอบ ต่างความสามารถ และความถนัดต่างบุคคลสถานที่ เราอยู่ที่ไหน กลุ่มและชื่อเสียงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็ติดตามตัวเราไปทุกที่ทุกหน
จากนั้นก็เข้าไปในห้องรับรองของพระสงฆ์ กราบไหว้ครูบาอาจารย์อย่างงดงามทักทายสนทนาถามสารทุกข์สุขดิบกันด้วยบรรยากาศของความเป็นพี่น้องกันอย่างอบอุ่นใจ
พระอาจารย์มหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ได้ถวายปัจจัยเพื่อไปจับจ่ายในต่างประเทศ ท่านได้ให้กำลังใจข้อแนะนำว่า “ขอแสดงความดีใจด้วยที่ท่านได้ไปปฏิบัติงานศาสนาที่อเมริกา ไปดูบ้านเมืองของเขา เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้ มันจะเป็นประสบการณ์ของชีวิต อย่าลืมเรียนภาษาอังกฤษด้วยจะเป็นประโยชน์ในภายภาคหน้านะ อยู่ที่นั้น ๒ ปีได้อยู่แล้ว ขออนุโมทนาด้วยนะครับ”
ผู้เขียนว่า “ขอขอบพระคุณครับพระอาจารย์”
แล้วก็นำเอากระเป๋าเช็คอิน กำลังตรวจสอบกระเป๋า แบ่งกระจายน้ำหนักกระเป๋าทั้งสามรูปนั้น โยมนกและโยมกิ๊บก็ได้มากราบไหว้ทักทายกัน และมาส่ง โยมนกได้จัดหาเครื่องกันหนาวมาให้และให้คำแนะนำการใช้ชีวิตในต่างประเทศเบื้องต้น อีกทั้งช่วยพูดคุยเพื่อให้ผ่อนคลายความตึงเครียดในการเดินทาง
เพราะถ้าเราหลงเข้าไปในความคิดมาก ใจจะคิดถึงอนาคตจึงกังวลใจเลยไม่เป็นอิสระ รีบกลับมาในปัจจุบันให้เร็วๆ หรือในสิ่งที่กำลังทำในสิ่งนั้นๆ
น้องสาวฝนและปอได้มาส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ น้องปอได้นำโทรศัพท์มาให้สนทนากับโยมพ่อ พ่อลูกคุยกันก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ท่านได้อวยพรพระลูกชายว่า “โชคดีเด้อ… รักษาสุขภาพด้วยเด้อ” เป็นพูดสั้นๆ แต่มันมีความหมายต่อจิตใจมาก เพราะคำพูดนั้นเป็นของพ่อขณะเดียวกันก็เป็นคำพูดของแม่เหมือนกันด้วย
จากนั้น ได้ถ่ายรูปร่วมกันเก็บไว้เป็นที่ระลึกในความทรงจำ ครั้งหนึ่งในชีวิตของข้าพเจ้า ก่อนแยกย้ายกันกลับไปทำหน้าที่ตนและกลับบ้าน
ขอกราบถวายความเคารพเป็นอย่างสูงยิ่งและขอขอบพระคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์กลุ่มเพื่อชีวิตทุกรูปในโอกาสนี้ด้วยครับผม
ขออนุโมทนาบุญกับโยมเป็ด โยมวรรณา ต๊ะ โยมนก และลูกศิษย์ญาติพี่น้องทุกคน ร่วมทั้งที่ไม่ได้เอยนามด้วย ขอขอบคุณทุกท่านที่ดูแลและให้กำลังใจกันตลอดมา ขอบุญกุศลความดีที่อาตมาและโยมได้บำเพ็ญมาก่อตัวขึ้นย้อนกลับไปหาโยมทวีคูณยิ่งๆ ขึ้นด้วยเทอญ
๒๕ มิถุนายน๒๕๖๒
พระจ๊อดส์
ป.ล. ไว้ติดตามตอนต่อไปอีกครับ ประสบการณ์เดินทางในต่างแดน….
จาก คอลัมน์ ธรรมลิขิต
นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๒
“เราอยู่ที่ไหน กลุ่มและชื่อเสียงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็ติดตามตัวเราไปทุกที่ทุกหน“
“ความเป็นพี่น้องกันของกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ทำงานด้วยใจใส่ใจงานที่ทำให้ความสำคัญกับคนที่เราคุยด้วยทุกคน”