![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_10-1024x768.jpg)
เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา พระเดชพระคุณพระปัญญาวชิราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร , พระอาจารย์เทอด ญาณวชิโร และ พระครูสิริวิหารการ เมตตาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจคณะสงฆ์พุทธสถานฮ่องธรรม และให้กำลังใจสามเณรโครงการบรรพชาสามเณรพุทธศากยบุตร “ฮ่องธรรม ฮ่องคำอิสาน” ในการ “ฝึกฝนกาย พัฒนาจิตใจ สร้างบุญบารมี” โครงการบรรพชาสามเณรฤดูร้อน ซึ่งจัดขึ้้นตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม – ๑๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
ณ พุทธสถานฮ่องธรรม ตำบลทุ่งไชย อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_56-1024x576.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_7-1024x768.jpg)
การเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะแห่งการใช้ชีวิตในกระแสของความสงบจากการบวชเรียน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีคือการควบคุมจิตใจของตนเองให้เป็นกุศล ไม่เบียดเบียนใคร ไม่คิดห่มเหงใคร และสิ่งสำคัญ ไม่ลดทอนความตั้งใจของใคร ตั้งมั่นในความเพียร สิ่งเหล่านี้เรียกว่า “สร้างบุญ สร้างบารมี ฮ่มธรรม ฮ่องคำอิสาน”
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_6-1-1024x768.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/81132157_502143710409875_7804497082013712384_n-1024x683-2.jpg)
ในธรรมนิพนธ์เรื่อง “ลูกผู้ชายต้องบวช” เรียบเรียงโดย ญาณวชิระ : อดีตพระราชกิจจาภรณ์ (พระอาจารย์เทอด ญาณวชิโร) ท่านได้อธิบายเรื่อง อานิสงส์ของการบวชไว้ดังนี้
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_16-1024x768.jpg)
คุณมารดาบิดามีค่ายิ่ง
การบวช คือ การตอบแทนคุณบิดามารดา
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_21-1024x768.jpg)
เรามักได้ยินคนพูดกันจนคุ้นหูว่า “เกิดเป็นลูกผู้ชายชาวพุทธชาติหนึ่งต้องบวช” ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าทำไมเกิดเป็นลูกผู้ชายจึงต้องบวช คำพูดนี้เป็นคำพูดของชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา ผ่านความเปลี่ยนแปลงของชีวิต จนเกิดประสบการณ์ รู้เห็นความเป็นไปของสังคม เข้าใจความเป็นจริงของชีวิต จึงต้องการทำสิ่งงดงามที่สุดให้แก่ชีวิต และให้แก่ผู้ที่ได้ชื่อว่า “พ่อกับแม่” แม้ลูกผู้ชายหลายคนจะให้เหตุผลของการบวชว่า ตั้งใจบวชให้พ่อแม่ก็ตาม
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_9-1024x768.jpg)
แต่แท้ที่จริง การบวชในพระพุทธศาสนา
ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่ตัวผู้บวชนั่นเองเป็นเบื้องต้น
หลายคนบอกว่า หากการบวช คือ การทำความดีเพื่อพ่อแม่ สำหรับลูกผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าเราเป็นคนดีอยู่แล้ว เป็นคนมีระเบียบวินัย ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไม่เป็นอันธพาลสร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคม ไม่เที่ยวเตร่ดึกดื่นทำให้พ่อแม่เป็นห่วงเป็นกังวล จนกินไม่ได้นอนไม่หลับเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องบวช เพราะอย่างไรก็เป็นคนดีอยู่แล้ว
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_24-1024x768.jpg)
แต่ความดีของลูกตามที่กล่าวนั้น ไม่ใช่ความหวังสุดท้ายที่พ่อแม่ต้องการ พ่อแม่ทุกคนรักลูก ไม่อยากเห็นลูกลำบาก และล้วนหวังที่จะเห็นลูกเป็นคนดี มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
การที่ลูกเจริญเติบโตโดยปราศจากแขนขาพิกลพิการ ไม่เป็นอันธพาลสร้างความเดือดร้อนให้สังคม การเห็นลูกสำเร็จการศึกษา มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีหลักฐานมั่นคง พออุ่นใจได้ว่าลูกจะไม่ลำบากเดือดร้อน สิ่งเหล่านี้เป็นความหวังของผู้ที่ได้ชื่อว่า “พ่อแม่” แต่ความหวังสูงสุด อันเป็นความหวังสุดท้าย คือ การที่จะได้เห็นผ้าเหลืองห่มกายลูกชาย ภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_37-1024x768.jpg)
หากมีลูกชาย ชาวไทยที่นับถือพระพุทธศาสนา จึงมักตั้งความหวังลึกๆ ไว้ในใจเสมอว่า วันหนึ่งจะได้ยินจากปากลูกชายว่า “ผมจะบวชให้พ่อกับแม่”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า “แม่” มักมีความเชื่อว่า การบวชในพระพุทธศาสนานั้น เป็นการสร้างบุญครั้งยิ่งใหญ่ เป็นการสร้างบุญที่แม่ไม่สามารถสัมผัสได้ เมื่อรู้ว่าได้ลูกชาย จึงหวังที่จะให้ลูกได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เพราะความรู้สึกที่ว่า ลูกชายบวชก็เหมือนแม่ได้บวชด้วย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_43-1024x768.jpg)
ความหวังนี้ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ภายใต้จิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาที่มีต่อหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา และพลังแห่งความรักความเมตตาไร้ขอบเขต ไร้พรมแดน ตั้งแต่วันแรกที่ลูกชายลืมตาดูโลก
แม่บางคนอาจจะรอวันนี้จนแก่ชรา จึงได้เห็นผ้าเหลืองห่มตัวลูกชาย บางคนอาจรอมาทั้งชีวิตก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นชายผ้าเหลืองลูกชาย
ลูกชายบางคนปล่อยให้แม่รอจนแก่ชราจึงบวชให้แม่บางคนบวชเมื่อแม่จากไปโดยที่แม่ไม่มีโอกาสได้เห็นผ้าเหลืองของลูกชาย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_68-1024x576.jpg)
อานิสงส์ของการบวช
เหตุที่มีคำกล่าวว่า ลูกผู้ชายต้องบวช เพราะการบวชเป็นการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างสูงสุด เป็นการทำความหวังสุดท้ายของพ่อแม่ให้บริบูรณ์ นอกเหนือจากความหวังที่ต้องการให้ลูกเป็นคนดี มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ในหน้าที่การงาน มีความปลอดภัยในชีวิต
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_45-1024x768.jpg)
การมีโอกาสเกิดเป็นลูกผู้ชาย ภายใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นความโชคดีของชีวิต เป็นความโชคดีที่ลูกผู้ชายอีกหลายพันล้านไม่มีโอกาสสัมผัสได้ ยิ่งถ้ามีโอกาสได้บวชเรียนในพระพุทธศาสนา ดำเนินชีวิตอย่างพุทธบุตร ผู้แสวงหาความสงบ แม้ชั่วระยะเวลาหนึ่งของชีวิต มากบ้าง น้อยบ้าง ตามโอกาส ยิ่งเป็นช่วงชีวิตที่งดงามควรค่าแก่การจดจำ ยากที่จะลืมได้
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_8-1024x768.jpg)
บางคนเชื่อว่า การบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า อายุพระศาสนาสั้นเข้า เป็นยุคที่พระศาสนาเสื่อม แต่ถ้ามองกลับกัน ตราบใดที่ยังมีคนบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน ติดต่อกันไม่ขาดสาย ตราบนั้น พระพุทธศาสนาก็ไม่มีวันเสื่อมสลาย สีแห่งผ้ากาสาวพัสตร์ จะยังสงบเย็นเหลืองอร่ามโลกตลอดไป
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ที่ผ่านการบวชเรียนเขียนอ่าน ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน หรือ ๑ พรรษา เมื่อลาสิกขากลับไปดำเนินชีวิตอย่างชาวบ้าน เขาเหล่านั้นก็ล้วนผ่านเส้นทางธรรมมาแล้ว ย่อมมีหลักให้กับชีวิต สามารถประคับประคองตนให้อยู่ในกรอบแห่งชีวิตที่ดีงามได้ เป็นลูกก็เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นสามีก็เป็นสามีที่ดีของภรรยา เป็นพลเมืองก็เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นหลักในการเผยแผ่ธรรมะ เป็นกำลังในการสืบทอดพระศาสนา และเป็นปราการที่แข็งแกร่งในการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_57-1024x576.jpg)
เขาจะเป็นคนที่มีความอดทนเข้มแข็ง
และกล้าแกร่ง
แม้ในยามเผชิญช่วงเวลาแห่งความยากลำบากของชีวิต
ธรรมนิพนธ์ เรื่อง “ลูกผู้ชายต้องบวช” เรียบเรียงโดย ญาณวชิระ
: อดีตพระราชกิจจาภรณ์ (พระอาจารย์เทอด ญาณวชิโร)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_63-1024x576.jpg)
การบวชในพระพุทธศาสนา เป็นการเจริญรอยตามแบบอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้พระองค์ทรงเป็นโอรสกษัตริย์ แต่พระองค์กลับเสียสละทุกอย่างออกบวช เพื่อแสวงหาหนทางที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นจากความทุกข์ ในที่สุดก็ได้ตรัสรู้ตามที่ทรงประสงค์
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_48-1024x768.jpg)
พระองค์อาศัยพระมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ ออกเทศนาสั่งสอนผู้คนให้รู้ความเป็นจริงของชีวิต และวิธีการที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของชีวิต สูงสุดจนถึงความดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง มีผู้ศรัทธาเลื่อมใสขอบวชตามพระพุทธองค์เป็นจำนวนมาก แม้ผู้ที่บวชในปัจจุบัน ก็ชื่อว่าบวชตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_52-1024x576.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_53-1024x576.jpg)
ในทางพระพุทธศาสนา แสดงเรื่องการบวชไว้ว่า เป็นสิ่งที่ให้สำเร็จประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการประพฤติปฏิบัติด้วยกาย วาจา ใจโดยตรง
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_25-1024x768.jpg)
การบวชทำให้ชีวิตและสังคมงดงาม
ชีวิตภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์เป็นชีวิตที่งดงาม และเต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์สิ่งดีงาม ชีวิตภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์จึงเป็นชีวิตที่ผู้คนทั้งหลายต้องการให้ลูกหลานเข้าไปสัมผัส เพราะวิถีของนักบวชคือ การฝึกฝนอบรมตน ขัดเกลากิเลสให้เบาบาง สูงสุดเพื่อทำกิเลสให้สิ้นไป แม้จะบวชไม่นานนัก และยังไม่อาจกระทำในสิ่งสุดได้ในชาตินี้ แต่สิ่งที่ได้อานิสงส์หลังจากการลาสิกขาคือ มีคนนับหน้าถือตาในสังคม เนื่องจากผู้ที่ผ่านการบวชเรียนเขียนอ่านแล้ว เชื่อว่าจะเป็นคนดีน่าคบค้าสมาคม เมื่อคบเข้าแล้วก็เป็นที่หวัง หรืออบอุ่นใจได้ว่าจะไม่ทำให้ชื่อเสียงเกียรติยศเสียหาย และเป็นที่พึ่งแก่กันและกันได้ตลอดไป
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_54-1024x576.jpg)
ชีวิตที่ผ่านการบวชเรียนเขียนอ่านฝึกอบรมจิตใจ เป็นชีวิตที่งดงามด้วยความดี น่าคบค้าสมาคม นอกจากผู้ที่ผ่านการบวชจะทำชีวิตของตนเองให้งดงามแล้ว ยังทำให้สังคมงดงามด้วย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_95-1024x768.jpg)
การบวชทำให้จิตใจงดงาม
ชีวิตภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ เป็นชีวิตที่เพียรพยายามเอาชนะจิตใจตัวเอง เป็นชีวิตที่ฝึกทวนกระแสจิต ถ้าโกรธก็จะไม่โกรธจนระงับไม่ได้ ถ้าเกลียดก็จะไม่เกลียดจนผูกใจเจ็บอาฆาตพยาบาทปองร้าย จนนำไปสู่การเข่นฆ่าทำลายล้างซึ่งกันและกัน
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_56-1-1024x576.jpg)
ถ้าจิตใจไม่มีข้อมูลขยะ คือ ความวิตกกังวลใดๆ ที่เป็นไปในทางที่ไม่ดี ไม่มีไฟ คือ ความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาตพยาบาท ความอิจฉาริษยา เป็นต้น แผดเผาให้รุ่มร้อน จิตใจจะสงบทำให้เกิดความสงบเย็นได้ในระดับหนึ่ง
คนที่ผ่านการบวชมาแล้ว เท่ากับผ่านการฝึกกลั่นกรองไม่ให้ความกังวลเข้ามาสู่จิต ฝึกรับข้อมูลจริงและทิ้งข้อมูลขยะ ที่ถูกส่งผ่านเข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ป้องกันไม่ให้ข้อมูลขยะ คือ ความโกรธเกลียด อาฆาต พยาบาท และวิตกกังวล เป็นต้น เข้ามาแผดเผาจิตใจ
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_59-1024x576.jpg)
ผู้ที่ผ่านการบวช และได้รับการฝึกหัดขัดเกลาที่ดี จึงเป็นคนมีความละเอียดสุขุม เป็นคนมองโลกในแง่ดี มองโลกตามความเป็นจริง มีความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งมาจากพื้นฐานจิตใจที่งดงาม
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_26-1024x768.jpg)
การบวชช่วยขัดเกลาอุปนิสัยให้อ่อนโยน
ชีวิตภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ เป็นชีวิตที่มุ่งไปสู่การทำลายกิเลสให้หมดสิ้นไป ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา แม้เป้าหมายนั้นอาจอยู่ห่างไกล และก้าวไปได้ยาก ในความรู้สึกของชาวบ้าน ถึงอย่างนั้น การบวชก็เป็นการฝึกหัดขัดเกลาจิตใจให้อ่อนโยนงดงาม ไม่หยาบกระด้าง ไม่ก้าวร้าวรุนแรง มีความโอบอ้อมอารี เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งเมื่อบวชแล้วนอกจากจะได้เห็นใจตนเอง ยังได้เห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_83-1024x576.jpg)
เป้าหมายที่เกี่ยวกับจิตใจและการละกิเลส เป็นประโยชน์โดยตรงต่อจิตใจของผู้บวช ถึงแม้จะไม่สามารถทำลายกิเลสลงได้อย่างราบคาบ แต่การบวชก็เป็นการสร้างบารมี เพื่อความสมบูรณ์แห่งจิตยิ่งขึ้นในภายหน้า ทำให้ได้เห็นใจตนเอง คือได้เห็นความรู้สึกนึกคิดของตนเองชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากชีวิตภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ มีเวลาในการปฏิบัติฝึกหัดขัดเกลาจิตมาก จึงมีโอกาสได้เห็นตัวตนที่แท้จริงว่าเราเป็นคนอย่างไร ทำให้ความก้าวร้าวรุนแรงในจิตใจลดน้อยลง จิตใจที่ผ่านการฝึกหัดเช่นนี้เป็นจิตที่อ่อนโยนละเอียดประณีต
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_33-1024x768.jpg)
การบวชเป็นการสนองความหวังดีของพ่อแม่
ชีวิตภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ได้ชื่อว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ เพราะพ่อแม่เห็นว่าเป็นทางที่จะช่วยเสริมชีวิตลูกให้ดีขึ้น เสริมบุญ เสริมบารมี เสริมจิตใจ เสริมความเจริญก้าวหน้า เสริมเกราะป้องกันจากผู้จองเวร ฯลฯ โดยเฉพาะส่งเสริมทางด้านจิตใจ เช่น พ่อแม่เห็นว่าลูกเป็นคนไม่ละเอียดอ่อน ใจร้อน วู่วาม หุนหันพลันแล่น เจ้าโทสะ ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ ก็ต้องการให้ลูกเป็นคนสุขุมเยือกเย็น รู้จักยับยั้งชั่งใจ จึงอยากให้บวชในพระพุทธศาสนา เพื่ออบรมขัดเกลาจิตใจให้เย็นลง เป็นการแสดงถึงความปรารถนาดีของพ่อแม่ เมื่อลูกได้บวช จึงกล่าวได้ว่า เป็นการตอบสนองความปรารถนาดีของพ่อแม่
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_64-1024x576.jpg)
ลูกที่รู้จักตอบสนองความปรารถนาดีพ่อแม่นั้น ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนพระคุณท่านอีกทางหนึ่ง เมื่อลูกบวช พ่อแม่เกิดความเบาใจและยังมีโอกาสได้ทำบุญทำทาน มีโอกาสได้เข้าวัดสวดมนต์ฟังเทศน์รักษาศีล หรือที่ทำอยู่แล้วก็ได้ทำมากขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแก่พ่อแม่ ล้วนมาจากการบวชของลูก เท่ากับว่าลูกเป็นสื่อให้พ่อแม่ได้ทำบุญ
คนไทยจึงถือกันว่า ลูกบวชแล้วทำให้พ่อแม่เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ เพราะเมื่อลูกบวชแล้ว ทำให้พ่อแม่มีโอกาสได้ทำบุญให้ทานรักษาศีล สวดมนต์ไหว้พระเจริญภาวนามากขึ้นเป็นพิเศษ ในขณะที่ลูกบวชเป็นพระ จิตใจพ่อแม่ก็อยู่กับลูกตลอดเวลา
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_34-1024x768.jpg)
การบวชเป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
ชีวิตภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ เป็นชีวิตที่ช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เพราะช่วงเวลาที่เข้าไปบวชเรียนอยู่ในพระพุทธศาสนา ต้องใช้ชีวิตอย่างสมถะ สงบเสงี่ยมเรียบง่าย ไม่กล่าวร้าย ไม่ว่าร้าย ไม่ทำร้ายใครๆ เป็นผู้ที่ละเว้นในสิ่งที่ไม่ควรไม่เหมาะสม
การดำเนินชีวิตเช่นนี้ ชื่อว่าเป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวออกไป เพื่อเป็นประโยชน์แก่คนในรุ่นหลัง แม้ชั่วระยะเวลาของการบวช ๗ วัน ๑๕ วัน เดือนหนึ่ง หรือพรรษาหนึ่ง ก็เป็นการนำชีวิตเข้าไปสืบต่อพระศาสนานั่นเอง
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_88-1024x576.jpg)
พ่อแม่ก็ชื่อว่า ได้สืบต่ออายุพระศาสนาด้วย เพราะชีวิตของลูกเป็นชีวิตที่มีพ่อแม่เป็นเจ้าของ เลือดและเนื้อที่เจริญเติบโตอยู่ในร่างกายของลูก ก็เป็นเลือดเนื้อจากอกของพ่อแม่ ได้นำไปต่ออายุพระศาสนา การต่ออายุพระศาสนาด้วยการบวชเรียนเขียนอ่านของลูก จึงมีอานิสงส์มาถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
นอกจากนั้น เพราะการบวชของลูกชาย ยังได้ชื่อว่า ทำให้พ่อแม่เป็นญาติพระศาสนาด้วย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_91-1024x768.jpg)
อานิสงส์ของการบวชตามคติโบราณ
อานิสงส์ของการบวชเพื่อตอบแทนค่าน้ำนมของมารดาบิดานี้คนโบราณแสดงอุปมาไว้ว่า
ถึงแม้มีบุคคลผู้ทรงฤทธิ์เหาะไป เก็บดอกไม้จากป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล มาสักการบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้ง ๑,๐๐๐ องค์ กระทำอยู่อย่างนี้ทุกวันมิได้ขาดตลอดกาล อานิสงส์นั้นจะนำมาเปรียบกับการได้บวชในพระพุทธศาสนาไม่ได้เลย หรือแม้จะถวายจตุปัจจัยทั้ง ๔ คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และยารักษาโรค แด่พระพุทธเจ้าถึงโกฏิองค์อานิสงส์นั้นจะนำมาเปรียบกับการได้บวช ในพระพุทธศาสนาไม่ได้เลย หรือ ถึงแม้จะมีมหาเศรษฐีจัดสร้างพระพุทธรูปให้เต็มห้วงจักรวาลนี้ แล้วกระทำการสักการะด้วยแก้วทั้ง ๗ ประการ กองประมาณเท่าภูเขาสูงหลายร้อยหลายพันโยชน์ อานิสงส์นั้นจะนำมาเปรียบกับการได้บวช ในพระพุทธศาสนาไม่ได้เลย
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_35-1024x768.jpg)
และหากจะมีเทพบุตรองค์หนึ่งเป็นผู้มีฤทธานุภาพมาก เสกเอาพื้นปฐพีอันหนาได้สองแสนสี่หมื่นโยชน์มาขยี้ทำให้เป็นผงใช้แทนหมึก แล้วเอามหาสมุทรลึกแปดหมื่นสี่พันโยชน์มาละลาย เอาภูเขาสิเนรุสูงถึงแปดหมื่นสี่พันโยชน์เป็นปากกาสำหรับเขียน เอาท้องฟ้าอันราบเรียบกว้างใหญ่ไพศาลหาที่สุดมิได้ เป็นสมุดจดจารึกบันทึกผลบุญของบุคคลผู้ได้บวชในพระพุทธศาสนา เขียนด้วยปากกาคือภูเขา จนสิ้นหมึกคือพื้นพสุธา สิ้นกระแสชลคือมหาสมุทร ขีดเขียนไปจนหมดหนังสือคือท้องฟ้า จะพรรณนาคุณการบวชให้หมดนั้น ไม่มี
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_39-1024x768.jpg)
การบวชมีอานิสงส์มากเท่านั้นจะตอบแทนได้ คนโบราณใช้โวหารแสดงอุปมาไว้ เพื่อเป็นสิ่งเปรียบเทียบให้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระคุณพ่อแม่
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_41-1024x768.jpg)
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/LINE_ALBUM_15467_๒๔๐๔๑๕_128-1024x768.jpg)
โครงการบรรพชาสามเณรฤดูร้อน
๓๑ มีนาคม – ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗
ณ พุทธสถานฮ่องธรรม ตำบลทุ่งไชย อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ จัดโดย พระมหาติ่ง มหิสฺสโร,ดร. ประธานสงฆ์ / ประธานมูลนิธิบุญพระศาสนาสงเคราะห์,พระมหาสิทธิชัย สิทฺธิญาโณ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพ และ พระบุรินทร์ ฐานสมฺปนฺโน สำนักสงฆ์ พุทธสถานฮ่องธรรม อีสาน
![](https://www.manasikul.com/wp-content/uploads/2024/04/IMG_0667-1024x682.jpg)
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ พระมหาติ่ง มหิสฺสโร,ดร. ๐๘๓-๗๒๙๘๒๙๗
ประธานสงฆ์ / ประธานมูลนิธิบุญพระศาสนาสงเคราะห์