พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร)  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร และเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ผู้สนับสนุนให้ทุนทรัพย์ และให้ทุนปัญญา กับกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ในการสร้างหลักสูตรวิทยากรกระบวนธรรม  ในขณะน้ัน ขอขอบคุณ ภาพจากสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ
พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร และเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ ผู้สนับสนุนให้ทุนทรัพย์ และให้ทุนปัญญา กับกลุ่มเพื่อชีวิตดีงาม ในการสร้างหลักสูตรวิทยากรกระบวนธรรม ในขณะนั้น ขอขอบคุณ ภาพจากสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคง แห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศ

กว่าจะเป็นหลักสูตรสื่อธรรมให้ถึงโลก (ตอนจบ)
“โลกสวยด้วยธรรม”

โดย พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร.

พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร. ผู้เขียน
พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร. ผู้เขียน

ด้วยความกตัญญูที่จะตอบแทนพระพุทธศาสนาที่ได้ให้ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ร่ำเรียนศึกษาจนจบ ณ ขณะนี้ และอีกเหตุผลหนึ่งมาจากการได้เห็นปฏิปทาของพระเถรานุเถระท่านทุ่มเทให้กับการรักษาพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและเป้าหมายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา คือ ๑. เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวนาน ๒. เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในไทยและทั่วโลก และ ๓. เพื่อสร้างความสงบสุขและมอบมรดกธรรมให้แก่ชาวโลกเท่าที่จะทำได้

ในระหว่างที่ทำงานเผยแผ่ซึ่งก็คือการช่วยเหลือผู้คนให้พ้นทุกข์ โดยให้เขามีเครื่องมือจากพระพุทธเจ้าในการออกจากทุกข์ คือ ศีล สมาธิ และปัญญา เมื่อพบเจอปัญหาและอุปสรรค (คิดไม่ออก, โดนวิจารณ์, ท้อแท้) ผู้เขียนจะทำ ๓ อย่างคือ


ก. ชมตัวเอง หรือมองโลกให้สวยไว้ หาคำคมๆ มาให้กำลังใจตัวเองก็ได้ เช่นว่า “คนที่ไม่ถูกตำหนิ คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย” หรือว่า “มองทางโลกให้มองต่ำ (คือมองว่ายังมีคนที่อาจจะเจอมาหนักกว่าเรา) มองทางธรรมให้มองสูง (คือถ้าเราผ่านไปได้เราจะเก่งขึ้น ดีขึ้น)”


ข. นั่งพักและทบทวน เพราะการเจอปัญหาแล้วท้อแท้นั้นดีกว่าการประสบความสำเร็จแล้วลืมตัว ถ้าเจอปัญหาแล้วไม่อยากทำต่อ หรือโดนต่อว่าอย่างรุนแรงจนท้อแท้นั้น อาจเป็นเรื่องที่ชวนให้เราคิดมากขึ้น มีเวลาทบทวนมากขึ้น และที่สำคัญมีเวลาได้เห็นว่าตนเองยังต้องพัฒนาอีก


ค. ขอบคุณอุปสรรค คนที่มีอุปสรรควางขวางอยู่ทำให้เห็นคุณค่าของมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่จำเป็นต้องมีความพยายาม ไม่ใช่คนตายหรือคนที่หมดหวังแล้วที่ไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรทั้งสิ้น

พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร. ผู้เขียน
พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร. ผู้เขียน


อยากจะบอกกับทุกคนว่า พระพุทธศาสนาคือวิถีชีวิตที่ผ่านการทดสอบทดลองมาหลายยุคหลายสมัยแล้วว่าสร้างความสุขสงบให้เกิดขึ้นได้ ธรรมะเป็นอกาลิโก เหนือกาลเวลา เพียงแต่วิถีชีวิตในบวรพระพุทธศาสนานี้ถูกมองในยุคปัจจุบันว่าเป็นเพียงอุดมคติ ไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นจริงที่แต่ละคนต้องดิ้นรนทำมาหากินจนลืมศีลธรรมอันดีงามไปจนหมดสิ้น และที่สำคัญลืมว่าถ้าเราทุกคนต่างดิ้นรนกอบโกยกันจนไม่ลืมหูลืมตา โลกใบนี้คงไม่มีพอสำหรับทุกคนได้กินใช้กันเป็นแน่


เราจึงมองพระพุทธศาสนาว่าเป็นเครื่องรักษาโลกไว้ รักษาชีวิตไว้ให้ยืนยาวต่อไปได้ ยิ่งตอนที่ไม่มีใครพูดถึงศีลธรรมอีกแล้ว อาจเป็นยุคที่น่ากลัวเกินบรรยาย ยิ่งเห็นการสื่อสารที่ปฏิบัติธรรมะแล้วยิ่งทำให้หวาดหวั่นยิ่งขึ้น แม้แต่เพจใน facebook ยังมีการตั้งว่า “ชาวพุทธต้องหยุดโลกสวย”
ที่จริงแล้ว เราต้องมองและหันกลับมามองโลกให้สวยต่างหาก เราจึงอยากปกป้อง อยากช่วยเหลือ อยากรัก และอยากมอบโอกาสที่เราเคยได้มากับคนอื่น เป็นธรรมะที่ก่อเกิดจากการมองด้านดีของสรรพสิ่ง และชวนให้ทุกคนหันมามองร่วมกัน นั่นจึงจะเป็นการสื่อสารธรรมะที่มั่นคงและยั่งยืน

กว่าจะเป็นหลักสูตรสื่อธรรมให้ถึงโลก (ตอนจบ) “โลกสวยด้วยธรรม” โดย พระมหาขวัญชัย กิตฺติเมธี ป.ธ.๙, ดร. จากคอลัมน์ ท่องเที่ยวโลกกะธรรม (หน้าพระไตรสรณคมน์ นสพ.คมชัดลึก วันพฤหัสบดีที่ ๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๓ )

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here