พายุการศึกษา โดย พระพิทยา ฐานิสสโร
พายุการศึกษา โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

พายุการศึกษา

โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่ใครๆ อยากมาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่รายล้อมด้วยภูเขาสลับกับทะเลสาบเขียวมรกตใสเย็น หลายภูเขาของประเทศนี้มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนหิมะได้ลดปริมาณลงอย่างมาก

ฤดูหนาวปีนี้หิมะตกช้ากว่าปีก่อนๆ อากาศจึงอบอุ่นยาวนาน เมื่อหิมะตกแล้วก็ละลายเร็วกว่าก่อน ใครที่อยากเล่นสกีต้องขึ้นไปยังภูเขาที่สูงเท่านั้น ภูเขาที่ต่ำลงมาอาจมีหิมะไม่พอที่จะเล่นสกีได้ ถึงแม้จะมีการทำหิมะเทียมที่ต้องใช้น้ำจำนวนมากเพื่อผลิต ส่งผลกระทบต่อกิจการโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าและคนที่ทำงานและมีส่วนเกี่ยวข้องกับพื้นที่เหล่านั้นเป็นลูกโซ่

ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง ความไม่ปรกติทางธรรมชาติ รวมทั้งเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติไปทั่วทุกมุมโลกในรูปแบบที่แตกต่างกัน ต่างเวลา ต่างวาระ ต่างความรุนแรง แต่ไม่มีใครสามารถหยุดเหตุการณ์ธรรมชาติที่ทรงพลานุภาพนี้ได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยอย่างสมดุล และประกาศให้มนุษย์รู้ว่าสร้างเหตุเช่นไรไว้ ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ไม่มีทางหลีกหนีพ้น

แม้ในขณะนี้ ณ ทางตอนใต้ของประเทศไทยได้รับความเสียหายทางทรัพย์สินอย่างใหญ่หลวงทั้งในของส่วนสาธารณะและส่วนบุคคล อาจพรากชีวิตคนรักของใครหลายๆ คนผลพวงจากพายุปาบึกที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ

ความเห็นแก่ตัวที่เกิดจากความไม่รู้หรือที่เรียกว่า “อวิชชา” ของคน เป็นจุดเริ่มต้นของการทำลายล้างความสมดุลทางธรรมชาติ ทั้งทำลายความสมดุลภายในตนเองและภายนอกโดยไม่รู้ตัว เพราะต่างอ้างความดี ความถูกต้องตามกฎหมาย แต่อาจไม่ถูกธรรม ในการทำสิ่งที่ทำลงไปโดยไม่นึกถึงผลเสียที่จะตามมา  เมื่อใดที่มีความไม่รู้มาควบคุมมนุษย์ไม่ว่าในระดับไหน คนเหล่านั้นจะไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม สาเหตุเพราะความยึดมั่นถือ ถือมั่นว่าเป็นตัวเรา ของเรา ส่งผลให้การทำหน้าที่สมมติในทุกหน้าที่ ไร้ซึ่งความรู้สึกตัวอย่างแท้จริง โดยไม่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ จิตใจไม่อยู่กับปัจจุบันขณะ

เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะขาดความเบิกบาน ความสงบในการทำหน้าที่ สิ่งที่ตามมาคือ ความเบื่อหน่าย ความเหนื่อยล้า อาจกลายเป็นความหงุดหงิด ไม่พอใจ โกรธในเวลาที่ต้องทำหน้าที่สมมติเหล่านั้น อีกทั้งทำไปโดยไร้ความเมตตาในที่สุด

พายุการศึกษา  โดย พระพิทยา ฐานิสสโร
พายุการศึกษา โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

เมื่อเขาเหล่านั้นต้องทำหน้าที่ๆ ถูกสมมติทุกวันด้วยความทุกข์ ภายใต้จิตใจที่ไม่รู้ ก็ได้สร้างสิ่งสมมติใหม่อีกมากมาย ในหลากหลายมิติเพื่อให้เกิดพลัง แรงกระตุ้นให้ทำหน้าที่สมมติเหล่านั้นต่อไปจนกลายเป็นความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ผูกพันที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สังคม ประเทศชาติโดยไม่รู้ตัวต่อไป หรือทำหน้าที่เพื่อได้มีทรัพย์สิน เงินทอง เพื่อได้รับความสะดวกสบายทางกาย ได้รับเกียรติยศ ชื่อเสียง ได้มียศ มีตำแหน่ง ได้รับคำชม คำสรรเสริญฯลฯ  สิ่งทั้งหมดเหล่านี้เพื่อสร้างความภูมิใจ ความหลงในตนว่าได้สำเร็จ เป็นที่ยอมรับ ยิ่งเพิ่มความเป็นตัวตน ของตนมากขึ้นด้วยความไม่รู้ อีกทั้งเป็นเหตุให้ไม่สามารถดำรงอยู่กับปัจจุบันได้มากยิ่งขึ้น

การศึกษาที่ถูกสร้าง กำหนดขึ้นมาโดยสังคมของคนที่มีความไม่รู้ความจริงของธรรมชาติ จึงเป็นการศึกษาที่ไม่ถูกตรงกับความเป็นจริง แต่ถูกใจกิเลส เพราะการรู้เรื่องราวภายนอกทำให้สนุก ท้าทาย การวิพากษ์คนอื่น เพื่อให้ตัวเองพ้นภัย วิธีคิดของการนำจิตส่งออกนอก คือภัยทางธรรมชาติ คือพายุอารมณ์ที่รุนแรงกว่าพายุทุกลูกที่พัดมา เพราะเป็นชนวน เป็นบ่อเกิดพายุภายนอก การศึกษาภายนอกจึงนำมาซึ่งการทำลายล้างมากกว่าการสร้างสรรค์

พายุการศึกษา  โดย พระพิทยา ฐานิสสโร
พายุการศึกษา โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

ทำให้การศึกษาภายในดูจิตใจของตนเองลดความสำคัญลงเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่สำคัญมาก เป็นเหตุให้เด็กที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นมาจากสังคมแห่งไม่รู้นี้ ค่อยๆ สั่งสมความยึดมั่น ถือมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มต้นจากการสอน เรียนรู้ ดูตัวอย่างจากผู้ที่ได้ถูกสมมติว่าเป็นบิดาหรือมารดาที่ได้ชื่อว่า เป็นครูคนแรกของลูก

ครอบครัวไหนที่มีความไม่รู้ถูกครอบงำมาก ความสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ ในครอบครัวแทบไม่มี เพราะเขาเหล่านั้นต่างทุ่มเท แรงกาย แรงใจมุ่งแสวงหาสิ่งภายนอกให้ได้มากที่สุด เป็นจิตใจโหยหาอยู่ตลอดเวลา วิ่งไขว่คว้า ตามหาความสำเร็จในชีวิตด้วยการได้มี ได้เป็น ได้ครอบครอง เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า ฉันมีตัวตนของตนมาก และจะได้รับการกล่าวขานว่า ผู้ประสบความสำเร็จทางโลก แต่ขาดซึ่งความเมตตากรุณาในตนเอง ส่งผลให้คนในครอบครัวได้รับผลกระทบเช่นนั้นด้วย

ดังนั้นผู้คนที่สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ ที่สมมติทางโลกที่กำหนดให้ศึกษาแต่เรื่องภายนอก โดยเฉพาะสำเร็จการศึกษาในระดับสูงมากขึ้นเท่าไร ยิ่งสร้างความไม่รู้ ความไม่เข้าใจความจริงของธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น ด้วยการไปยึดติดในความรู้ ในสิ่งที่ตนได้จบการศึกษามา ได้สมมติ ประกาศตนว่า เป็นผู้ชำนาญการเฉพาะทาง เพราะรู้เฉพาะในเรื่องที่ศึกษา ซึ่งเมื่อเทียบกับความรู้ในโลกใบนี้แล้ว ถือว่า น้อยมากทีเดียว แต่เขาเหล่านั้น อาจใช้เวลาทุ่มเทเกือบครึ่งชีวิตหรือทั้งชีวิต เพื่อศึกษาและให้ได้มาซึ่งใบประกาศเหล่านั้น และคิดว่านั่น คือ สำเร็จของชีวิต

เมื่อผู้สำเร็จการศึกษาทางโลกเหล่านั้นได้เป็นผู้นำ เป็นใหญ่เป็นโต มีบทบาทหน้าที่สำคัญในสังคม เขาจะนำพาผู้คนในสังคมไปในทิศทางใด ถ้าไม่ใช่กระตุ้นให้ผู้คนในสังคมเสพ แสวงหา ครอบครองให้ได้มากที่สุด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศชาติตามความเชื่อที่ถูกครอบงำจากผู้นำของประเทศมหาอำนาจที่มีบทบาททางสังคมโลกที่เห็นผิดเช่นกัน โดยที่ไม่รู้แท้จริงเลยว่า ยิ่งเสพ ยิ่งแสวงหา ยิ่งครอบครองมาก ยิ่งทำให้ยึดติดมาก อยากได้มาก แม้ได้มาด้วยความไม่ถูกต้อง เหมาะสม ไร้คุณธรรม ไร้จรรยาบรรณ  ส่งผลให้มีคุณภาพจิตใจบอบบาง ไม่มั่นคง ไร้ที่พึ่งภายในตน ไม่เคารพชีวิตที่ได้มาของตนเอง คงเป็นไปยากที่จะเคารพผู้อื่นหรือทรัพยากรธรรม สิ่งแวดล้อมที่เกื้อกูลให้ตนได้มีชีวิตอยู่

อวิชชา คือ ความไม่รู้ นั้นมองเห็นยาก เพราะมันซ่อนอยู่ในจิต เป็นความไม่รู้ความจริงของธรรมชาติว่า แท้จริงแล้ว ตัวเราหามีไม่ เรานั้นไม่มีตัวตน ของตนที่เที่ยงแท้แน่นอน ชีวิตเป็นเพียงชั่วคราว ไม่ควรไปยึดมั่น ถือมั่นว่าเป็นตัวเรา ของเรา ไม่เช่นนั้น สิ่งที่ตามมา คือ ความทุกข์ทั้งปวง และไม่ใช่เพียงแค่เราที่ทุกข์ ถ้าเรายังไม่รู้วิธีการดับทุกข์ที่ถูกต้อง เพราะความทุกข์เหล่านั้นจะถูกส่งผ่านต่อไปให้กับบุคคล สัตว์ สิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกสมมติให้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเราอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

ดังนั้น เราคงไม่สามารถประกาศตนว่าเป็น ผู้รู้ หรือ บัณฑิตได้เลย ตราบใดที่เรายังไม่สามารถถอนรากแห่งความยึดมั่น ถือมั่น แห่งความเป็นตัวตน ของตนได้

การศึกษาใดๆ ที่ไม่สามารถพัฒนาให้คน กลายเป็นมนุษย์ที่แปลว่า สัตว์ประเสริฐได้ ต่อให้ไปศึกษาที่ไหน ไกลถึงต่างประเทศ ก็หาได้ชื่อว่าเป็นการศึกษาที่ถูกต้องไม่ เพราะยิ่งศึกษามากยิ่งทำให้ยึดมั่น ถือมั่นในตัวตน ของตนมาก ทำให้เกิดความเชื่อมั่น มั่นใจในตนมาก มีความเห็นผิดมาก สร้างความทุกข์มากขึ้นให้กับผู้ที่ศึกษาโดยหารู้ตัวไม่ และปัญหาต่างๆ อีกมากมายจะเกิดขึ้นตามมา และไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ตราบใดที่ยังไม่เข้าใจว่า ไม่มีสิ่งใดบนโลกใบนี้เป็นของเรา แม้แต่สิ่งที่ศึกษาอยู่ก็ไม่ใช่ของเรา ที่เราทั้งหลายทุกข์กันมากมาย ไม่ใช่เพราะมีความยึดมั่นว่า มีตัวเรา ของเรามากหรือ? เพราะถ้าฉันไม่ยึดว่าเป็น ตัวฉัน ของฉัน ก็จะไม่มี ฉันที่ทุกข์

โดย พระพิทยา ฐานิสสโร
พายุการศึกษา โดย พระพิทยา ฐานิสสโร

ภัยพิบัติทางธรรมชาติแม้เตือนสิ่งที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้หลายครั้ง หลายครา มิใช่หมายความว่า จะทำให้เขาตื่นจากอวิชชาได้ ตราบใดที่ไม่ฝึกฝนที่จะหยุดอยาก กลับมามองที่ตน เข้าใจในตนว่าปัญหาในชีวิตทั้งมวลมาจากความยึดมั่น ถือมั่น ของตน ฝึกที่จะเคารพตนเอง ผู้อื่น ทรัพยากรธรรมชาติ อยู่อย่างสำนึกบุญคุณด้วยการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย พอเพียง พึ่งตนเอง ไม่เช่นนั้น ภัยพิบัติ ไม่มีทางหมดไป เพราะจิตใจยังไม่พอ

ภัยธรรมชาติ ไม่โหดร้ายเท่า ภัยในจิตที่ยึดมั่น

การศึกษาที่ถูกต้อง ต้องสามารถดับทุกข์ในตน

บัณฑิตที่แท้ ไร้แม้ตัวตน ของตน

งานที่ยิ่งใหญ่ของคนวัยเกษียณ โดย พระพิทยา ฐานิสสโร
บาตรเดียวท่องโลก กับ พระพิทยา ฐานิสสโร เดินทางข้างนอกเรียนรู้ข้างใน

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here