ขอถวายความอาลัย

สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)

เมื่อวันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๔ เวลา ๑๙.๐๑ น. เฟซบุ๊กวัดบวรนิเวศวิหาร ประกาศสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารได้มรณภาพด้วยอาการสงบวันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๒๒ น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยสิริอายุ ๘๕ ปี ๖๖ พรรษา

โดยมีกำหนดการบำเพ็ญกุศลศพเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ณ อาคาร ๑๐๐ ปี วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ดังนี้

วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔)

– กรรมการมหาเถรสมาคม พระอนุวงศ์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ถวายน้ำสรงศพเจ้าประคุณสมเด็จฯ ณ ห้องบำเพ็ญกุศล ชั้นที่ ๒ อาคาร ๑๐๐ ปี

– พระภิกษุสามเณร คณะศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วไป ถวายน้ำสรงศพเจ้าประคุณสมเด็จฯ หน้าภาพถ่าย ณ ห้องประชุม ชั้นที่ ๑ อาคาร สภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัยหมายเหตุ

เวลา ๑๘.๕๘ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องบำเพ็ญกุศลชั้น ๒ อาคาร ๑๐๐ ปี วัดบวรนิเวศวิหาร ในการพระราชทานนำ้หลวงสรงศพ สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร โอกาสนี้ ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ และของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทอดผ้าไตรบังสุกุล แล้วทรงสดับพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพ

: การจัดพิธีบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดขอโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่หน่วยงานราชการประกาศอย่างเคร่งครัด

เรื่องเล่าเมื่อวันวาน “ความเมตตาของสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ”

ย้อนกลับไปในปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ในวันที่ ๑๓ ตุลาคม หลังจากนั้น วันที่ ๑๘ ตุลาคม ในช่วงนั้น ผู้เขียนยังทำงานเป็นผู้สื่อข่าว และผู้ช่วยบรรณาธิการเนชั่นสุดสัปดาห์อยู่ ก็ตั้งใจจะสัมภาษณ์สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เนื่องจากท่านเป็นพระนวกะร่วมสำนักเดียวกับพระภิกษุภูมิพโล ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงผนวชในช่วงวันที่ ๒๒ ตุลาคม – ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๙๙

และเมื่อครั้งที่ท่านดำรงสมณศักดิ์ที่ พระอมรโมลี ท่านได้เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรเรื่องพระธรรมวินัย แด่ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฏราชกุมาร ช่วงทรงผนวชเมื่อวันที่ ๖-๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๑ ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

สมเด็จพระวันรัต ยังได้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระบรมศพ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๐

ย้อนกลับไปในวันนั้น ผู้เขียนจึงขอสัมภาษณ์ท่านผ่านไปทางทีมจิตอาสาที่ช่วยงานวัดบวรนิเวศวิหาร และได้คำตอบว่า ท่านเมตตาให้สัมภาษณ์ในบ่ายวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๙

ต่อมาเช้าวันที่ ๑๘ ผู้เขียนเตรียมไปสัมภาษณ์ท่าน และเมื่อเดินทางไปถึง ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อสื่อทุกสำนักมากันพร้อมเพรียงอย่างไม่ได้นัดหมาย

ในช่วงเวลาที่สมเด็จพระวันรัตพร้อมที่จะให้สัมภาษณ์แล้ว ท่านพระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์  ก็บอกต่อสื่อทั้งหมดว่า เนื่องจากผู้เขียนติดต่อมาก่อน จึงขอให้ผู้เขียนได้มีโอกาสถามเป็นสื่อแรก นำความตื่นเต้นมาสู่ผู้เขียนเป็นอย่างมาก แม้จะอยู่ในช่วงที่โศกเศร้าที่สุด ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเสด็จสวรรคต แต่การได้ฟังสมเด็จพระวันรัตเล่าเรื่องเมื่อวันวานย้อนกลับไปกว่าหกสิบปีในช่วงที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงผนวช ก็ทำให้ผู้เขียนมีพลังในการทำหน้าที่ทุกอย่างในชีวิตให้ดีที่สุด ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหนก็ตาม

ผู้เขียนยังจำบรรยากาศวันนั้นได้ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่อยู่ท่ามกลางสื่อทุกสำนัก กับคำถามแรกที่สื่อต่างๆ นำไปออกอากาศ ออกทีวีทุกช่อง ในค่ำคืนนั้น ก่อนที่ผู้เขียนจะกลับถึงบ้านเพื่อมาเขียนบทความลงในนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับ ๑๒๗๔ ปีที่ ๒๕ วันที่ ๒๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ซึ่งจะออกทีหลังสุดทุกสื่อ แต่นั่น กลับทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจที่ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดสำหรับสื่อเล็กๆ ฉบับหนึ่ง

และในบทบาทกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ความเมตตาของท่านยังปรากฏ ยกตัวอย่างเช่น สิ่งที่ท่านได้แสดงออกเป็นที่ประจักษ์ในหมู่พระมหาเถระ ถึงความเป็นเมตตาธรรมในหมู่สงฆ์ เมื่องครั้งประชุม “มหาเถรสมาคม” ว่า มีคนแนบข้อกล่าวหาพระมหาเถระเข้าในที่ประชุมโดยไม่มีมูล ท่านก็ไล่ให้กลับไปศึกษาข้อมูลมาก่อน ให้ชัดเจนก่อน ฯลฯ ดังนี้เป็นต้น

เมตตาธรรมนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ที่นำความร่มเย็นมาสู่สังฆมณฑล ซึ่งเป็นพุทธบุตรที่พระพุทธเจ้าทรงฝากไว้ในพระรัตนตรัยให้มั่นคงและแข็งแรง เป็นฐานที่มั่นในการหมุนกงล้อพระธรรมจักรขับเคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือคนทุกข์ให้คลายทุกข์ สร้างพระเณรเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และรักษาพระธรรมวินัยให้ดำรงอยู่ในพระไตรปิฎกที่มีชีวิต คือพระสงฆ์ หน่อเนื้อโพธิญาณ จะดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง ก็ด้วยความเมตตาของพระมหาเถระที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอันยิ่งใหญ่นี้เอง มิใช่อื่นใด

ขอถวายความอาลัย สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)

เรื่องเล่าเมื่อวันวาน “ความเมตตาของสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)” เขียนโดย มนสิกุล โอวาทเภสัชช์

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here