
จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่ ๑๓
“วันขอบคุณพระเจ้า” วันแห่งความกตัญญู
โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
ทุกวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนในแต่ละปีชาวอเมริกันหยุดงานพากันไปเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้า Thanksgiving Day
วันขอบคุณพระเจ้า หมายถึง วันที่ชาวอเมริกันรำลึกขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยให้ผู้อพยพชาวอเมริกันชุดแรกได้รอดชีวิตมาได้เกือบสี่ร้อยปีมาแล้ว
ขณะเดียวกันก็ขอบคุณชาวอินเดียแดงพื้นเมืองดั้งเดิมที่ช่วยสอนวิธีการเอาตัวรอด โดยการปลูกพืชพักผลพื้นเมือง เช่น ข้าวโพด เลี้ยงชีวิตรอดมาได้ ในวันดังกล่าว ชาวอเมริกันจะเชิญคนอินเดียแดงพื้นเมืองเดิมมารับประทานอาหารด้วยกัน
อาหารที่นิยมทำรับประทานกันในวันนี้คือ ไก่งวงป่า เป็ด ห่าน ปลาค้อดและกวาง โดยเฉพาะไก่งวงเป็นอาหารหลัก กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวันขอบคุณพระเจ้าตราบเท่าทุกวันนี้

ผู้เขียนมีโอกาสได้นั่งรถไปในเมืองบอสตันกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และญาติโยมเข้าไปในเมือง ปรากฏว่ารถติดพอสมควร ถนนข้างหน้ารถที่นั่งไปมีไฟสีแดงเป็นแถวยาวเหยียด เนื่องจากผู้คนต่างก็พากันมุ่งหน้าขับรถไปที่บ้านของตน เพื่อไปเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้า มีอาหารหลักคือ ย่างอบไก่งวง น้ำผลไม้น้ำองุ่น อีกมากมาย
ตามท้องถนนบางสายก็ไม่มีรถวิ่ง ร้านค้าห้างสรรพสินค้าขายของ ร้านดังในอเมริกาวอมาร์ค ร้านกาแฟ ขนมโดนัท ร้านอาหารไทย จีน ฝรั่งถึงกับปิดร้านชั่วคราวเลยทีเดียว
สิ่งที่สังเกตเห็นคุณธรรมของฝรั่งคือ
เป็นวันที่ครบญาติ ลูกน้อย คนกลาง คนใหญ่ รวมทั้งลูกสะใภ้ ลูกเขย หลานเหลนน้อย ก็มารวมญาติฉลองอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ดูแล้วมีความสุขรอยยิ้มทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ถ้าเมืองไทยเราก็คล้ายกับวันสงกรานต์เป็นวันของครอบครัวรวมญาติ เลี้ยงอาหารขนมจีน ขนมต้ม ผัดหมี่ รับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน รู้จักแบ่งปันสิ่งที่ตนมีอยู่ให้แก่ผู้อื่น เป็นคนที่มีจิตเมตตาเสียสละทรัพย์สินของใช้สอย เพื่อคนอื่นบ้าง เข้าใจเขาเข้าใจเรา ใส่ใจเขาเหมือนเราใส่ใจตนเอง ความสุขก็บังเกิดขึ้นมีในใจของคนที่รับและผู้ให้เช่นกัน
ความกตัญญูกตเวที เหมือนชาวอเมริกันรู้จักบุญคุณ หรือ อุปการคุณของชาวอินเดียแดงคนพื้นเมืองเดิม ด้วยวิธีการตอบแทนบุญคุณ เชิญมารับประทานอาหารด้วยกัน ความสัมพันธไมตรีอันดีงามจึงบังเกิดมีระหว่างคนทั้งสองฝ่าย
เพราะความรักความเมตตาต่อกัน
สังคมจึงจะอยู่กันอย่างสันติสุข

เช่น คนอินเดียแดงมีความรักความปรารถนาดีต่อชาวอเมริกัน ได้บอกแนะนำวิธีการเอาตัวรอดได้เป็นหลายปี เพราะความรักเมตตาจิตที่มีต่อกันระหว่างเพื่อนมนุษย์โลกด้วยกัน
อย่างไรก็ดี อดีตที่ผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือความจริงของความดีที่มีต่อกัน ความรัก ความเมตตา ความกตัญญูกตเวที สายใยแห่งความสัมพันธ์อันดีงามของมนุษย์ ทุกอย่างก็มีทั้งฝันดีบ้าง ฝันร้ายบ้าง มันเป็นธรรมดาของธรรมชาติ ขอให้เรายึดมั่นในคุณงามความดีของตนและของคนอื่นเท่านั้นพอ

“วันขอบคุณพระเจ้า” วันแห่งความกตัญญู โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
จากคอลัมน์ ธรรมลิขิต (หน้าธรรมวิจัย นสพ.คมชัดลึก วันอังคารที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒)


