จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่๑๗)  "อย่าล้อเล่นกับชีวิต  เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น" โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์  อนาลโย
จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่๑๗)
“อย่าล้อเล่นกับชีวิต เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่๑๗)

“อย่าล้อเล่นกับชีวิต เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น

” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

ในครั้งที่บวชเป็นสามเณรน้อยที่วัดตาลเรียง​ บ้านผือ จังหวัดขอนแก่น​ หลังจากทำวัตรสวดมนต์เสร็จแล้ว​ หลวงพ่อพระครูสิริปริยัติกร​ อดีตเจ้าอาวาส ​ท่านให้ท่องบรรพชิตควรพิจารณา​๑๐​ ประการเป็นประจำ

แต่ก่อนนั้นยังเป็นเด็กความเข้าใจยังไม่มี​  เพราะสนใจแต่ความสนุกสนาน​ เพิ่งมาประจักษ์ในวันนี้เป็นวันที่เราเจอกับตนเอง​  ปกติทั่วไปทุกคน​ ถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่เชื่อและยอมรับในสิ่งเหล่านั้นเป็นแน่แท้

ที่ว่าเจอกับตนคือ​ ข้อที่ว่า​ บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ ว่า

​”วันคืนล่วงไปๆ​ บัดนี้เราทำอะไรอยู่”

เวลาปวดหลัง​ มันตึงไปหมด​ เป็นอยู่สามครั้งตอนนอนอยู่​ ปวดแบบไม่รู้สาเหตุ​ ไม่เคยเป็นมาก่อน​ เราก็ว่าอายุยังไม่มากนะ​ ความเจ็บ​ ปวด​ ป่วย​ โรคภัย​ มันเกิดขึ้น​บางครั้งก็รู้ตัว​ บางครั้งก็ไม่รู้ตัว

จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่๑๗ อย่าล้อเล่นกับชีวิต เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย
จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่๑๗ อย่าล้อเล่นกับชีวิต เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

ทำให้ระลึกนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่พระองค์ที่ได้ไปเจอเทวทูตทั้งสี่​ แก่​ เจ็บ​ ตาย​ และสมณะ​ พระองค์ก็นำมาคิดพิจารณากับตัวพระองค์เอง เห็นโทษของชีวิตนี้มันสั้นจริงๆ​ ความแก่​ เจ็บ​ ตาย​ นี้เป็นโทษ​ คือ

ความแก่​  เป็นสัญญาณเตือนว่าชีวิตนี้มันใกล้ฝั่งแล้ว​ เรี่ยวแรง​ พละกำลังเริ่มลดลง ถอยหลังอวัยวะในร่างกายเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ ทุกวันเวลา​

ความเจ็บ​ เป็นสัญญาณอย่าประมาทในชีวิต ไม่ว่าหัวสีดำหรือหัวสีขาวก็มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนชีวิตไม่เลือกเพศวัย ร่ำรวย หรือ จน สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ก็เจ็บป่วยไข้ได้ด้วยกันทั้งนั้น

ความตาย​ คือ​การจบชีวิต​ หยุดการทำงาน ทำหน้าที่ของอวัยวะหรือธาตุสี่ขันธ์ห้า​ หมดโอกาสจะสร้างบุญกุศล​ เพราะสิ้นลมหายใจชีวิตแน่นิ่งแล้ว

ทั้งสามข้อนี้เป็นโทษของชีวิต​  ถ้าไม่เชื่อในสัญญาณเตือนชีวิต​ ยังหลงลืมตัวประมาทอยู่ จุดจบของชีวิตคือความตาย​ ตายแล้วหมดโอกาส​ทำหน้าที่​ การสั่งสมบุญ​ อำนาจ​ ความรัก ทุกอย่างของชีวิตหนึ่งๆ ที่ทำสร้างสมบุญบารมีภพชาตินี้​ ภพหน้าชาติหน้าค่อยว่ากันใหม่

ทางออกของชีวิตคือ​ สมณะ​  ผู้ออกบวชเสียสละชีวิตของความเป็นฆราวาส​ เพื่อแสวงหาความอมตะของชีวิตคือ​  การหลุดพ้นจากความแก่​เจ็บตาย​

ด้วยวิธีการดับทุกข์​ จากกิเลสของความโลภ​ โกรธ​ หลง​ พระองค์ได้ออกบวช ทดลองทรมานตนที่เรียกว่า​ บำเพ็ญทุกรกิริยา​ คือ​ การทรมานร่างกายอยู่​ ๖​ ปี ก็ไม่สามารถบรรลุธรรม ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า​ได้ มันไม่ใช่หนทาง

จึงเปลี่ยนวิธีมาบำเพ็ญทางจิต​ ได้เห็นธรรมอริยสัจ ๔​ และพบหนทางออกจากทุกข์คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ แล้วได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วได้นำหลักธรรมเหล่านั้นมาสั่งสอนสาวกของพระองค์ให้รู้ตามจนตกทอดจนมาถึงเราในปัจจุบันนี้

วันคืนล่วงไปๆ​ บัดนี้เราทำอะไรอยู่​  ควรถามใจตนเอง ตอบใจตนเอง​  เราเพลินเพลินในสิ่งยั่วยวนใจแสวงหาไขว่คว้าเอาเป็นเอาตายจนลืมว่า  ชีวิตเรามีค่ามากกว่าสิ่งที่เราหลงไปกับสิ่งที่เป็นประโยชน์กับชีวิตน้อยนิด เราทำมันไปทำไม​

ทำไมไม่สร้างคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตตน ชีวิตภายนอกใครๆ เขาก็สามารถ สร้างสรรค์มันขึ้นมาได้ และมันก็ไม่ยั่งยืน เพลินเพลินสนุกสนานกับมันไปวันหนึ่งๆ​ กว่าจะคิดได้ชีวิตเราก็ปาเข้าไปค่อนข้างครึ่งคนแล้ว

จาริกธรรมในอเมริกา (ตอนที่๑๗) “อย่าล้อเล่นกับชีวิต เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย

จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่๑๗ อย่าล้อเล่นกับชีวิต เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน
จาริกธรรมในอเมริกา ตอนที่๑๗
“อย่าล้อเล่นกับชีวิต เพราะชีวิตไม่ใช่ของเล่น ” โดย พระครูสมุห์สุพัฒน์ อนาลโย ผู้เขียน

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here