ระฆังใบจิ๋ว : หมอนไม้

0
1605

ระฆังใบจิ๋ว

         เด็กๆ สงสัยกันใหญ่ว่า นี้คืออะไร

           ฉันให้ทาย

           เด็กบางคนก็ว่า “ครก” มั๊ง

           เด็กบางคนก็ว่า “ขันใบเล็ก”

         ฯลฯ

           เด็กหญิงทั้งเก้าคน ต่างมีมุมมองสิ่งที่เห็นอยู่ข้างหน้าแตกต่างกันไป  เป็นเรื่องธรรมดา เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์ในการมองสิ่งคล้ายๆ กันอย่างนี้ในบริบทที่แตกต่างกันไป

           นี้คือช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนนอนที่ได้มีโอกาสไปแนะนำเด็กหญิงก่อนบวชศีลจาริณีที่วัดกลางเมืองแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร  ให้หัดเขียนบันทึกประจำวันในระหว่างบวชเรียนสั้นๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิต

ระฆังใบจิ๋ว : หมอนไม้
ระฆังใบจิ๋ว : หมอนไม้

           ฉันอาศัยระฆังใบจิ๋วนี้ ที่เด็กๆ ยังไม่รู้จักว่าคืออะไร แล้วตั้งกติกาให้เด็กๆ เล่าสิ่งที่ค้างคาในใจ หรือสิ่งที่อยากบอกก่อนที่จะมาเข้าคอร์สบวชเรียนในครั้งนี้สั้นๆ โดยมีหลักการร่วมกันคือ ใครที่คิดจะเล่าก็หยิบสิ่งที่ว่านี้ขึ้นมาจากกลางวง แล้วเชิญหนึ่งครั้งให้เสียงดังขึ้น กลับมาอยู่กับลมหายใจเข้า-หายใจออกสักสามครั้ง แล้วค่อยพูดสิ่งที่อยู่ในใจก่อนที่จะเก็บไปบันทึกประจำวันก่อนนอน

            เด็กแต่ละคนตื่นเต้นกับสิ่งที่ว่านี้ แล้วเด็กคนหนึ่งก็หยิบไปตีดังๆ เมื่อเธออยากจะเล่าอะไรบางอย่างให้เพื่อนๆ ในกลุ่มฟัง หลังจากแนะนำชื่อตัวเองพอให้รู้จักกันนิดหน่อย

           เรื่องราวของเธอ บอกเล่าถึงช่วงเวลาวิกฤติที่คิดว่า ถ้าช้ากว่านั้นอีกสี่สิบวินาทีเธอต้องตายแน่ในสระว่ายน้ำที่ครั้งนั้นในวัยเพียงแปดขวบ เธอทำแว่นหายในขณะที่ว่ายน้ำอยู่ ก็เลยทำให้ต้องหลับตาว่ายน้ำแล้วไปชนอะไรเข้าอย่างแรง ทำให้หายใจไม่ออก เธอกำหนดรู้เป็น พยายามที่จะว่ายโผล่พ้นน้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรหนักๆ ถ่วงไว้ ขณะที่ข้างบนก็มีอะไรดันอยู่ และแล้ว ในขณะช่วงสุดท้ายที่หายใจไม่ออก โลกผิวน้ำก็เปิดออก เธอโผล่จมูกขึ้นมาเหนือน้ำได้ และดีใหญ่เมื่อรู้ว่าที่หนักๆ ข้างบนเปิดทางให้เธอคือ “ก้น” ของน้องชายวัยเจ็ดขวบของเธอเอง

             ประสบการณ์เฉียดตายของเด็กวัยเยาว์ที่จำรายละเอียดได้มากราวกับเกิดขึ้นเมื่อวานนี้สอนอะไรกับเราบ้าง

           สำหรับเด็กน้อย เธอบอกว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือ ต่อไปแว่นใส่ว่ายน้ำจะถอดเล่นไม่ได้ ถ้าหายต้องหาให้เจอ ก่อนที่จะว่ายเล่นต่อไป “สติ” เป็นสิ่งสำคัญมาก ในขณะนั้น ถ้าไม่มีสติ และไม่มีความเพียรที่จะดันตัวเองขึ้นมาจนโผล่พ้นน้ำ ป่านนี้ก็คงไม่มีชีวิตมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง แล้วเธอก็ตีสิ่งที่อยู่ข้างหน้าครั้งหนึ่งก่อนที่จะวางลง แล้วก็มีเด็กคนอื่นๆ จ้องมองว่าจะพูดดีหรือไม่

           จากเดิมจะใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีก่อนนอนสำหรับการแนะนำตัว เล่าเรื่องที่ค้างคาในใจก่อนบวช กลายเป็นเกือบสองชั่วโมงจากสามทุ่มเกือบถึงห้าทุ่ม แต่เด็กๆ ก็ยังตาใสแจ๋ว ยังมีเรื่องเล่าอีกมากไม่มีวันจบ ผลัดกันหยิบสิ่งที่ว่านี้ที่ตีแล้วมีเสียงไปไว้ในมือแล้วก็เล่า เล่า เล่า ราวกับว่า ทุกเรื่องราวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ ทั้งเรื่องฝันดี ฝันร้าย เรื่องผี และเรื่องขอบคุณคุณแม่ที่ที่เข้าใจในการเรียนที่แม้ไม่ได้ที่หนึ่งก็ยังเป็นหนึ่งในดวงใจของแม่เสมอ

           เด็กบางคนนั่งฟังตั้งแต่ต้นจนจบไม่ยอมพูดอะไรเลย ตอนใกล้จะแยกวงไปนอนก็เล่าช็อตเด็ด!  

         “หนูไม่เคยฝันเลย หลับสนิท มีแต่ความว่าง…” พร้อมกับรอยยิ้มฟันน้ำนมที่กำลังจากไปบางส่วนและฟันแท้กำลังมาแทนที่ เด็กน้อยในชุดคิตตี้สีชมพูที่พรุ่งนี้จะต้องเปลี่ยนเป็นชุดขาวบอกเล่าอายๆ หลังจากฟังเรื่องหลอนๆ ไม่รู้จบของเพื่อนมาหลายรอบแล้วเพิ่งจะเปิดประเด็นเป็นคนสุดท้าย

           ฉันก็เลยขอปิดท้ายด้วยการเฉลยว่า นี้คือ “ระฆัง” เด็กๆ ทำตาโตและขอเชิญระฆังอีกคนละครั้งและฟังเสียงไพเราะๆ ก่อนแยกย้ายกันไปนอน…

           ล้อมกรอบ

ระฆังใบจิ๋ว : หมอนไม้
ระฆังใบจิ๋ว : หมอนไม้

           ท่านใดสนใจภาพวาด “ระฆังใบจิ๋ว” ลายเส้นพู่กันจีนวาดสดๆ บนกระดาษร้อยปอนด์ ขนาด ๕ นิ้ว x ๗ นิ้ว พร้อมซองสีน้ำตาล แต่ละภาพเป็นภาพเดียวในโลกไม่เหมือนกัน เพียงภาพละ ๑๐๐ บาท ซื้อหนึ่งภาพ แถมหนึ่งภาพ สำหรับเป็นของขวัญแทนใจให้กับคนที่คุณรักและห่วงใย ฟรีค่าส่ง ทักกันมาได้ที่ ID LINE : monmai1234 ค่ะ  

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here